ช่วงรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ - รู้ตัวในวันที่สายไป


ก่อนที่จะเกิดสงคราม Arlen Glass และเพื่อนของเขา George Wilson ทั้งสองเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทผลิตของเล่น Wilson Atomatoys อาร์เลนทำหน้าที่เป็นหัวหน้านักออกแบบของเล่น เขาทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อสร้างของเล่นที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝันและจินตนาการถึงอนาคตที่ดีกว่ามาตลอด อาร์เลนทำงานเพื่อนเด็ก ๆ มาถึง 35 ปี แต่บ่อยครั้งที่เขาต้องละเลยคนในครอบครัวของเขาเองอยู่เสมอ

ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นของบริษัท Wilson Atomatoys นั้นคือ Giddyup Buttercup (ที่ออกแบบและสร้างโดยอาร์เลน) ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด และสร้างรายได้หลายร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีให้แก่บริษัท แม้ของเล่นชิ้นนี้มันจะมีราคาที่สูงมากก็ตาม (ราคา 16,000 ดอลลาร์ต่อตัว)

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ความกดดันต่อครอบครัวของผู้ก่อตั้งทั้งสองครอบครัวก็เพิ่มขึ้น อาร์เลนละเลยภรรยาและลูกสาวมาหลายปี โดยเอาเวลาของเขาไปลงกับงานให้มากที่สุด ในขณะที่จอร์จพลาดงานวันเกิดของลูกชาย , งานการสำเร็จการศึกษา และงานศพของภรรยาของเขาไป เขาจึงได้แต่งตั้ง Marc Wilson ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธาน และในที่สุด จอร์จก็สละตำแหน่งประธานบริษัทให้กับมาร์กในปลายปี ค.ศ. 2077 โดยเชื่อว่ามาร์กนั้นสามารถทำให้ธุรกิจของเล่นเติบโตยิ่งขึ้นได้ แต่ต่อมา ลูกชายของจอร์จที่ถูกพ่อของเขาละเลยมาหลายปี จึงได้ออกจากตระกูล และไม่เอาชื่อของตัวเองไปรับมรดกของผู้เป็นพ่อเลย

ยิ่งกว่านั้น การคาดการณ์ยอดขายสำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี ค.ศ. 2077 ผิดพลาดไปตามคำสั่งของมาร์ก ดังนั้นยอดขาย Giddyup Buttercup จะลดลงจาก 122,000,000 ดอลลาร์เป็น 110,000,000 ดอลลาร์ ซึ่งลดลง 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทางบริษัทจึงอ้างถึงความซบเซาของแบรนด์ และความอิ่มตัวของตลาด ณ จุดราคาปัจจุบัน นั่นจึงเป็นสาเหตุของการขายออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อาร์เลนก็เริ่มค้นหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดของแบรนด์ทันที เช่น ตลาดทางเลือกสำหรับเด็กผู้ชาย , กลุ่มผลิตภัณฑ์ Princess ระดับพรีเมี่ยม , รวมถึงการส่งเสริมการขายร่วมกับ Hubris , Nuka-Cola และ Vault-Tec ในทางกลับกัน มาร์กกลับมีความคิดอื่น เขาไม่ชอบข้อเสนอของอาร์เลน

ต่อมา ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ได้เสนอคำขอสำหรับโครงการลับ SCYTHE ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อสนับสนุนการผลิตอาวุธลับในช่วงสงคราม โดยการเปลี่ยนโรงงาน Atomatoys บางส่วนให้เป็นโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ ดังนั้น Colonel Thomas Nelso ผู้อำนวยการของโครงการ SCYTHE จึงมีกำหนดการเยี่ยมชมสถานที่ด้วยตนเอง

อาร์เลนที่ไม่เห็นด้วยจึงถูกกักบริเวณ เขาจึงได้ทำการปรับแต่งของเล่นของเขาไปเรื่อย โดยที่ไม่มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทคนไหนมาช่วยชี้แจงเขาเลย จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม อาร์เลนที่กำลังหมดหวังเรื่องสินค้าตัวใหม่ เขาต้องมาเห็นตัวแทนของกองทัพในที่ประชุม อีกทั้งอาร์เลนยังไม่ชอบที่จะต้องมาเห็นบริษัทที่ตนทำงานอยู่ถูกเปลี่ยนไปเพื่อสนับสนุนงบประมาณโดยการผลิตอาวุธให้กับกองทัพ

หลังจากการประชุมคณะกรรมการไปได้ 45 นาที อาร์เลนก็ระเบิดลงใส่ห้องประชุม เขาถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาออกจากสถานที่ทันที อาร์เลนจึงพยายามที่จะเข้าไปคุยกับมาร์ก เพื่อห้ามไม่ให้มาร์กออกจากเส้นทางที่บริษัทตั้งใจไว้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ อาร์เลนถูกพาตัวออกจากสถานที่อีกหลายครั้ง มากพอที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องแจ้งตำรวจ เมื่อ CEO ของบริษัทรู้เรื่องนี้เข้า อาร์เลนก็ถูกไล่ออกทันที การเลิกจ้างของเขาสร้างความตกใจให้กับพนักงานทุกคนในบริษัท ซึ่งทุกคนนั้นถือว่าเขาเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของสถานที่นี้

อาร์เลนพยายามขอคุยกับมาร์กครั้งสุดท้ายเพื่อพยายามโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจ ในเช้าวันที่ 23 ตุลาคม อาร์เลนจึงออกจากอพาร์ตเมนต์ในเขต Cambridge และมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่ของ Wilson Atomatoys แม้ว่าเขาจะถูกพาตัวออกไปทันที แต่อาร์เลนก็สามารถโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้หนึ่งส่งจดหมายที่เต็มไปด้วยคำขอร้องให้กับมาร์ก แต่มาร์กก็ทิ้งจดหมายนั้นทันที

เมื่อส่งจดหมายเสร็จ อาร์เลนที่กำลังเดินทางกลับไปหาครอบครัวของเขาในเคมบริดจ์ แต่ช่วงนั้นได้เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นทันที เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน อาร์เลนพบเพียงหลุมระเบิกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นบ่อรังสีไปแล้วเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาและลูกสาวของเขาเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อพบดังนั้น อาร์เลนจึงล้มตัวลงนอนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง เขาไม่ต้องการอะไรแล้ว นอกจากตายและได้อยู่ร่วมกับครอบครัวของเขาอีกสักครั้ง ถึงเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องกลายเป็น Ghoul

ต่อมา อาร์เลนคิดได้ว่าเขาต้องไปต่อ เขาจึงใช้พรสวรรค์ของเขาในฐานะช่างทำของเล่นและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ชีวิตผ่านไปในแต่ละวันโดยที่ยังถูกความทรงจำของครอบครัวของเขาตามหลอกหลอนอยู่เสมอ และโดยเฉพาะมาร์ลีน ลูกสาวของเขาในวัยเยาว์

การที่เขามุ่งเน้นไปที่การทำของเล่น มันช่วยให้อาร์เลนมีสติมานานกว่า 200 ปี จนในที่สุด เขาก็ลงหลักปักฐานที่ The Slog และช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็น Ghoul ด้วยความเชี่ยวชาญของเขา และยังคงพยายามสร้าง Giddyup Buttercup ต่อไป เพื่อที่ของเล่นที่เขาสร้าง มันอาจจะเป็นของขวัญแก่เด็กสักคนในโลกหลังนิวเคลียร์นี้ได้

ความคิดเห็น

Recommend