FALLOUT 4 : ข้อมูลและประวัติของ Arthur Maxson

ข้อมูลและประวัติของ Arthur Maxson

มีสปอย : ข้อมูลของตัวละคร

Elder Arthur Maxson (อาเธอร์ แม็กซัน) มีรหัสทางการทหารของกลุ่ม BOS ที่ใช้ชื่อว่า MX-001E เขาเป็นลูกหลานคนสุดท้ายของตระกูลแม็กซันที่สืบเชื้อสายมาจาก Roger Maxson (โรเจอร์ แม็กซัน) ซึ่งอาเธอร์และบรรพบุรุษของเขาเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้นำดั้งเดิมของกลุ่ม Brotherhood of Steel อีกทั้งอาเธอร์จะกลายเป็นศัตรูหลักในเกม Fallout 4 ถ้าหากว่าผู้เล่นนั้นเลือกที่จะอยู่ฝ่าย The Institute

ใน Fallout 3 อาเธอร์เกิดในปี ค.ศ.2267 และเขาเองก็เป็นลูกหลานคนหนึ่งของบุรุษในตำนานที่ชื่อว่า โรเจอร์ แม็กซัน ผู้ซึ่งเป็นคนที่ก่อตั้งกลุ่ม Brotherhood of Steel ขึ้นมา ซึ่งพ่อของอาเธอร์ Jonathan Maxson (โจนาธาน แม๊กซัน) นั้นเป็นทหารยศ Paladin ระดับสูง ที่ถูกส่งไปประจำการที่เขต New California Republic แต่วันหนึ่งเขากลับเสียชีวิตลงในการสู้รบ แม่ของอาเธอร์ Jessica Maxson (เจสซิก้า แม๊กซัน) จึงได้ส่งหนูน้อยอาเธอร์ให้ไปยังเขตทางทิศตะวันออกเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการโดนหมายหัวจากการสู้รบ และเจสซิก้านั้นได้ฝากให้ Elder Lyons ช่วยดูแลและเลี้ยงดูอาเธอร์แทนเธอ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เล่นได้เจอกับหนูน้อยอาเธอร์ที่เขต Citadel ใน Fallout 3 และไม่นานนัก เจสซิก้าก็ได้เสียชีวิตลงตามสามีของเธอไป แต่สาเหตุการตายของเธอนั้นไม่ได้ถูกระบุไว้

จากคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของอาเธอร์ (ซึ่ง Lone Wanderer สามารถไปแฮ๊กคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ดูบันทึกได้โดยที่ไม่เสียค่า Karma) ตัวเอกก็จะได้พบในบันทึกว่า หนูน้อยอาเธอร์นั้นมีความสุขกับการที่ได้เขียนบันทึกในเรื่องที่เขาสนใจในตัวของ Sarah Lyons เป็นอย่างมาก (เป็นเพราะว่าซาร่านั้นได้สอนวิชาต่อสู้ให้แก่อาเธอร์ โดยการให้เขาฆ่าคนด้วยการแทงเข้าไปในไตที่เป็นอวัยวะจุดอ่อน) อีกทั้งตัวเอกก็ยังพบว่า อาเธอร์ได้อ่านหนังสือ Guns and Bullets ด้วย โดยหนังสือนี่จะพบได้ตรงใต้เตียงนอนในห้องของอาเธอร์เอง

หลังจากเหตุการณ์ใน Fallout 3 , Brotherhood of Steel ฝั่งตะวันออกก็ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤต เพราะขาดผู้นำขึ้นมาดูแล เป็นเพราะว่า Elder Owyn Lyons นั้นได้เสียชีวิตลงไปแล้ว อีกทั้งซ่าร่า ลูกสาวของเขาเองก็ได้ "ถูกฆ่าตายในสนามรบ" ไปแล้ว จนทำให้อาเทอร์ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำ BOS ฝ่ายตะวันตก ให้เป็นทหารยศ Elder (ผู้นำ) ขึ้นมาปกครอง BOS ฝั่งตะวันออกในปี ค.ศ.2283 แทน หรือตอนที่อาเธอร์มีอายุได้เพียง 16 ปีเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเขาเป็นผู้นำคนแรกที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ BOS อีกทั้งอาเธอร์เองก็มีฝีมือการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม มีผลงานและชื่อเสียงมาจากการที่เขาสามารถกำจัด Shephard ผู้นำของพวกกลายพันธ์ Super mutant ที่อาศัยอยู่ใน Vault 87 ได้ และอาเธอร์เองก็ยังมีความสามารถที่จะไปเจรจากับฝ่าย Brotherhood Outcasts จนสามารถนำพาพวกเขาเข้าสู่หนทางของ BOS ได้เหมือนเดิมอีกด้วย

อาเธอร์ปรากฎตัวอีกครั้งในเกม Fallout4 ในฐานะผู้นำหนุ่มไฟแรงของ BOS ฝั่งตะวันออก ซึ่งกองทหารที่ผู้เล่นเจอในปัญจุบันของเขานั้นส่วนมากจะเป็นการรวมกำลังพลของกองทหารส่วนตัวของเขาเอง และอดีตทหารของ Elder Owyn Lyons ไว้เข้าด้วยกัน ซึ่งเป้าหมายของแม็กซันนั้นจะต่างจาก Elder Owyn Lyons เป็นอย่างมากคือ Elder Owyn Lyons ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่แม็กซันนั้นต้องการที่จะเดินทางตามวิถีแห่ง BOS แบบดั้งเดิม ซึ่งนั่นก็คือการเก็บครอบครองและรักษาเทคโนโลยีขั้นสูงเอาไว้ในมือ เพื่อปกป้องมนุษยชาติจากการใช้ในทางที่ผิด ด้วยเหตุดังนี้ เขาจึงได้จัดตั้งกองกำลังหน่วยลาดตระเวนขึ้นมา เพื่อให้ไปสำรวจพวกซากปรักหักพัง และค้นหาเทคโนโลยีที่อาจจะถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด อีกทั้ง The Commonwealth ก็เป็นสถานที่ๆเต็มไปด้วยเทคโนโลยี่ก่อนยุคสงครามที่น่าสนใจมากมาย นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่า ทำไมแม็กซันถึงได้สนใจใน The Commonwealth และได้เดินทางมาที่นี่นั่นเอง

ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำที่มีกลยุทธในการพูด และมียุทธวิธีเป็นทักษะ อาร์เธอร์จึงได้รับความเคารพและการชื่นชมผ่านผลงานของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขามีอายุได้ 10 ปี แม็กซันได้ฆ่าพวกกลายพันธุ์ Super mutant ในการปฏิบัติภารกิจการฝึกวิชาการต่อสู้ และแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้าของเขานั้นก็ได้มาจากการที่เขาไปสู้กับ Deathclaw แบบตัวต่อตัวในตอนที่แม็กซันมีอายุได้เพียง 13 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากตอนที่ฝึกอบรมนั้น ครูฝึกของเขาได้บอกแนะนำว่าไม่ควรจะไปเผชิญหน้ากับ Deathclaw เพียงลำพัง ด้วยความที่เขามีความบ้าบิ่นอยู่ในตัวพอ แม็กซันเลยลองของไปสู้กับ Deathclaw ด้วยตัวคนเดียวมันซะเลย

อีกทั้งแม็กซันยังเป็นคนที่ใสใจในตัวลูกน้องของเขาด้วย จะสังเกตุได้จากการที่ Ingram (อินแกรม) ได้บาดเจ็บจากการสู้รบจนต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไป เขาจึงได้เปลี่ยนให้อินแกรมที่ตอนแรกนั้นทำหน้าที่เป็นทหารหน่วยรบ มาทำหน้าที่เป็นทหารหน่วยข้อมูลที่ไม่ต้องไปออกสนามรบแทน และยังได้มีคำสั่งให้ Knight-Captain Cade ที่เป็นหน่วยแพยท์นั้นทำการดัดแปลงโครงหุ่น Power Armor ให้เป็นรุ่นพิเศษให้อินแกรมได้ใส่ เพื่อให้มันทำหน้าที่เป็นขาเทียมให้แก่เธอ นอกจากนี้ในการจัดเก็บเทคโนโลยี แม็กซันได้มีคำสั่งด้วยว่าถ้าหากใครมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจไว้ในครอบครอง ก็สามารถนำมันมาแลกเปลี่ยนเป็นยาและอาหารจากหน่วยทหารของเขาไปได้เลย แต่ถ้าหากว่าดื้อไม่ยอมให้เทคโนโลยีแก่เขาดีๆ การใช้ความรุนแรงเพื่อแย่งชิงนั้นจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำ ซึ่งจะต่างจากแนวคิดของ BOS ฝั่งตะวันตก เพราะฝั่งนี้นนั้นจะเน้นความรุนแรงเข้ายึดครองก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแม็กซันนั้นไม่อยากที่จะสูญเสียลูกน้องของเขาไปอย่างเปล่าประโยชน์ และเขาเองก็เป็นห่วงในตัวของประชาชนในเขต The Commonwealth ด้วยใจจริงอีกด้วย

นอกจากนี้แม็กซันยังได้มีคำสั่งให้ Senior Scribe Neriah ให้ทำการคิดค้นยาสูตรใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า Rad-Away ที่เป็นยาที่มาจากยุคก่อนสงคราม ด้วยการพัฒนาให้เป็นตัวยาที่มีชื่อว่า X-111 compound ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม็กซันยังมีแนวคิดที่จะพยายามพัฒนาเอาเทคโนโลยียุคเก่ามาทำการปรับปรุง มากกว่าที่จะครอบครองและปล่อยให้มันอยู่เฉยๆเหมือนกับที่ BOS ฝั่งตะวันตกนั้นได้ทำ (ซึ่งการกระทำของ BOS ฝั่งตะวันตก ผู้เล่นจะได้ทราบมาจากบทสนทนาระหว่าง Nolan McNamara กับ Veronica Santangelo ที่ปรากฎใน Fallout : New Vegas)

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับแม็กซัน

- ตัวละครแม็กซันนั้น ทีมงานได้แรงบัลดาลใจในการสร้างมาจาก กษัตริย์อาเธอร์ (King Arthur) ที่เป็นกษัตริย์ของอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงยุคกลาง

- สำหรับการปรากฎตัวอีกครั้งของแม็กซันใน Fallout 4 นั้น เขาจะโดยสารเรือเหาะ The Prydwen เข้ามายังใน The Commonwealth หลังจากที่ผู้เล่นเล่นจบเควส Reunions แล้ว ซึ่งถ้าหากเดินทางไปยังที่เรือเหาะ The Prydwen ผู้เล่นก็จะได้เจอกับแม็กซันที่ยืนอยู่ในห้องบังคับการ รึไม่ก็บางเวลาที่เขาจะขึ้นไปอยู่ในห้องนอนส่วนตัวเของเขาเอง

- อีกทั้งเขาจะมาช่วยตัวเอกร่วมต่อสู้กับฝ่าย Institute ในเควส Ad Victoriam และกลายมาเป็นผู้ติดตามชั่วคราวของผู้เลนในเควสต่อเนื่องที่มีชื่อว่า The Nuclear Option ด้วย

- ผู้เล่นไม่สามารถใช้สกิล Pickpocket เพื่อขโมยของออกจากตัวแม็กซันได้ จะขโมยของในตัวของแม๊กซันได้ ผู้เล่นต้องกลายเป็นศัตรูกับ BOS แล้วเท่านั้นถึงจะขโมยได้

- หลายๆคนนั้นอาจจะไม่ค่อยได้สังเกตุกัน แต่แม็กซันนั้นมีดวงตาเป็นสีฟ้าอ่อน

ส่วนอันนี้เป็น 28 ข้อสรุปเกี่ยวกับแม๊กซันที่เราเคยเขียนไว้ ถ้าอ่านอันบนแล้วตาลาย อันนี้สรุปไว้ให้เป็นข้อๆแล้วค่ะ >> จิ้มจึ๊ก <<

หมายเหตุ : มันไม่งายเลยที่จะเขียนชื่อแม๊กซันแทนคำว่านมโต , อีอึ๋ม //โดนถีบอีกรอบ