FALLOUT 4 : ข้อมูลและประวัติของ Paladin Danse


ข้อมูลและประวัติของ Paladin Danse
มีสปอย : ข้อมูลของตัวละคร

Paladin Danse (พาราดิน แดนท์) มีรหัสทางการทหารของกลุ่ม BOS ที่ใช้ชื่อว่า DN-407P หรือรหัสของซินท์ที่ชื่อว่า M7-97 เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของทหารกลุ่ม Brotherhood of Steel ที่อาศัยอยู่ใน the Commonwealth ในปี ค.ศ. 2287 อีกทั้งเขายังเป็นตัวละครที่ผู้เล่นสามารถพามาเป็นคู่หูในการเดินทางได้อีกด้วย

ก่อนที่จะได้เข้าร่วมกับกลุ่ม Brotherhood of Steel แดนท์จำได้ว่าเขามีช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่เขานั้นเป็นเด็กกำพร้าและเติบโตขึ้นมาที่ Capital Wasteland (เขตเมืองในภาค 3) ในตอนที่เป็นเด็ก แดนท์ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางอันตรายในเขต D.C. โดยอาศัยการเก็บขยะขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินประทังชีวิต จนเวลาผ่านไป แดนท์สามารถเก็บเงินทุนได้มากพอที่จะย้ายตัวเองเข้าไปอาศัยและเปิดร้านขายขยะเป็นของตัวเองได้ที่ Rivet City ไม่นานนักเขาก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Cutler (คัทเลอร์) ซึ่งแดนท์และคัทเลอร์เองต่างก็เป็นพ่อค้าด้วยกันทั้งคู่ จึงทำให้ทั้งสองคนนี้ สามารถกลายเป็นเพื่อนสนิทกันได้ด้วยเวลาที่ไม่นานนัก

จนวันหนึ่ง กลุ่ม Brotherhood of Steel ได้เปิดการรับสมัครพลเรือนที่ต้องการมาเป็นทหาร แดนท์กับคัทเลอร์ได้ตกลงกันทันทีที่จะเข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกของกลุ่ม BOS ด้วยกันทั้งคู่ หลังจากที่เข้าร่วมกับกลุ่ม BOS แล้ว ทั้งสองเพื่อนรักนี้ต่างก็ได้รับการฝึกอบรมทางการทหารและการต่อสู้มาจาก Paladin Krieg จนในที่สุด แดนท์และคัทเลอร์นั้นก็กลายเป็นทหารที่ประสบความสำเร็จ มียศและชื่อเสียงในระดับหนึ่ง พวกเขาก็ถูกบรรจุไปทำงานกันคนละภาคส่วน คัทเลอร์ถูกส่งให้ไปเป็นหน่วยลาตตระเวณ ส่วนแดนท์นั้นทำงานภาคสนามอยู่ที่เรือเหาะ The Prydwen

แต่หลังจากนั้นประมาณหนึ่งปีให้หลัง แดนท์กลับพบว่ากลุ่มลาตตระเวณของคัทเลอร์นั้นได้ขาดการติดต่อไป และสมาชิกของกลุ่มก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยเช่นกัน เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักกำลังตกอยู่ในอันตราย แดนท์จึงได้ออกเดินทางเพียงลำพังเพื่อค้นหาหน่วยลาตตระเวณที่หายไปนี้เป็นเวลานานถึง 3 อาทิตย์ จนในที่สุดการแกะรอยตามหาของเขาก็นำพาเขาไปสู่จุดหมายปลายทางที่เป็นรังของพวกกลายพันธ์ Super mutant แดนท์ได้พบว่าสมาชิกของหน่วยลาตตระเวณของคัทเลอร์นั้นได้ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงคัทเลอร์คนเดียวเท่านั้นที่รอด แต่ทว่าโชคมักจะไม่เข้าข้างเสมอไป คัทเลอร์ที่รอดชีวิตนั้นได้ติดเชื้อไวรัส Forced Evolutionary Virus หรือเชื้อ FEV เข้าไปแล้ว และเขาก็ได้กลายพันธ์เป็นหนึ่งในสมาชิกของพวก Super mutant แดนท์เสียใจเป็นอย่างมากที่เขาต้องเสียเพื่อนที่เขารักมากที่สุดไป และด้วยความที่ไม่อยากให้เพื่อนของเขานั้นต้องตกอยู่ในสภาพของพวกกลายพันธ์ แดนท์จึงจัดการปลิดชีพคัทเลอร์ไปด้วยมือของเขาเอง

ด้วยความทรงจำอันเลวร้ายที่ต้องมาเห็นเพื่อนรักตายต่อหน้าต่อตา แดนท์จึงเกลียดชังสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์ รวมทั้ง Super mutants , Ghouls , และ Synths มนุษย์สังเคราะที่เกิดมาจากน้ำมือของ The Institute ด้วยเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์ที่เขาต้องสูญเสียเพื่อรักไป แดนท์ก็ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นทหารหน่วยบู้ยศพาราดิน และถูกส่งให้ไปรบกับพวก Enclave ที่ Adams Air Force Base ในปี ค.ศ.2277 แต่โชคไม่เข้าข้างเขาอีกเป็นครั้งที่ 2 ในการรบครั้งนี้ Paladin Krieg ผู้ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์และเป็นบุคคลที่แดนท์เคารพนั้น ได้เสียชีวิตจาการสู้รบไปอีกคน


10 ปีต่อมา ในปี ค.ศ.2287 แดนท์ได้ถูกบรรจุให้มาเป็นทหารที่ขึ้นตรงกับ Arthur Maxson (อาเธอร์ แม็กซัน) น้องนมโตหัวหน้าของกลุ่ม BOS โดยตรง และแดนท์เองก็เป็นหนึ่งในทหารคนโปรดของแม็กซันด้วย เขาได้รับการมอบหมายจากแม็กซันให้จัดตั้งกลุ่มลาดตระเวณเป็นจำนวน 7 คน และถูกส่งตัวไปยัง The Commonwealth เพื่อค้นหาฐานทัพที่อยู่ของ Institute แต่โชคไม่เข้าข้างเขาอีกเป็นครั้งที่ 3 สมาชิกของหน่วยลาดตระเวณของเขา เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4 คนนั้นได้เสียชีวิตลงในระยะเวลาที่เขาได้เข้ามาใน Commonwealth ได้ไม่นานนัก จนทำให้ทั้งทีมนั้นเหลือสมาชิกอยู่เพียงแค่ 3 คน คือตัวของแดนท์เอง , เฮเลนหน่วยแพทย์ของทีม และตารีสจอมปากมาก ด้วยความที่สมาชิกของทีมนั้นเหลือกันอยู่เพียงแค่ 3 คน ความตั้งใจแรกที่จะสำรวจพื้นที่จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ลำพังแค่ป้องกันตัวเองเอาชีวิตให้รอบจากการถูกดักโจมตีก็แทบแย่แล้ว แดนท์จึงคิดแผนขึ้นมาได้ว่า สภาพของทีมเขาควรตั้งค่ายป้องกันมากกว่าการบุก ทีมของแดนท์จึงได้เข้าไปทำการใช้สถานณีตำรวจ Cambridge Police Station เป็นค่ายพักอาศัยและจุดรวมพลกันไปก่อน

จนกระทั่งในปีเดียวกัน เมื่อตัวเอกได้เดินทางมายังบริเวณเขต Cambridge Pip-Boy ของตัวเอกกลับได้รับสัญญาณวิทยุแปลกๆเข้ามาอันหนึ่ง เมื่อลองเปิดฟังก็ได้พบว่า วิทยุคลื่นนี้เป็นข้อความประกาศซ้ำๆเรื่องการขอกำลังเสริมมาช่วยเป็นกองหนุนจากการที่สถานณีตำรวจถูกกลุ่มผีกูลบุกโจม หลังจากที่ตัวเอกช่วยไปป้องกันค่ายได้สำเร็จและได้พบเจอกับแดนท์ , เฮเลน และรีสแล้ว แดนท์ได้ขอแรงให้ตัวเอกช่วยไปเป็นกองหนุนให้แก่เขาอีกรอบ เพราะว่าคราวนั้นเขาต้องการที่จะเดินทางไปยัง ArcJet Systems โรงงานพลิตชิ้นส่วนทางพลังงาน เพื่อที่เขาจะเข้าไปเอาอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งในนั้นเพื่อทำการบูตเพิ่มคลื่นสัญญาณติดต่อไปยัง BOS ฐานแม่ และหลังจากที่ภารกิจการหาชิ้นส่วนเสร็จสิ้น แดนท์ได้ขอให้ตัวเอกนั้นมาเข้าร่วมกับ BOS และมาเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมของเขา ซึ่งถ้าหากตัวเอกตอบตกลงเข้าร่วม แดนท์จะแต่งตั้งและให้ยศ Initiate (พลทหาร) แก่ตัวเอกทันที ซึ่งถ้าหากสอบถามแดนท์ในเรื่องยศ เขาจะบอกว่าเขาไม่สามารถที่จะให้ยศที่สูงไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เพราะคนที่จะแต่งตั้งพลทหารให้ไปเป็นยศอื่นๆได้นั้น มีแต่คนที่เป็นยศ Elder หรือแค่แม็กซันเท่านั้นที่จะสามารถเลื่อนขั้นให้เป็นยศอื่นๆได้

หลังจากนี้ ผู้เล่นจะสามารถพาแดนท์มาเป็นคู่หูเดินทางได้แบบเต็มรูปแบบก็หลังจากที่เล่นจบเควส Shadow of Steel แล้ว

ซึ่งระหว่างการเดินทางกับแดนท์นั้น ก็จะทำให้ผู้เล่นทราบว่า แดนท์เชื่อว่าการมีอยู่ของฝ่าย Institute และ Synths (ซินท์) นั้นมันอันตรายเกินไปที่จะปล่อยให้พวกนี้มีชีวิตและคงอยู่ต่อไป และจะต้องกำจัดพวกนี้ออกไปให้หมดเพื่อความปลอดภัยของมนุษยชาติ


แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตัวเอกนั้นได้ไปเอาข้อมูลลับสุดยอดที่อยู่คอมพิวเตอร์ในเมนเฟรมของฝ่าย Institute ความลับของแดนท์ก็ถูกเปิดเผยออก เพราะจริงๆแล้วแดนท์นั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นซินท์ แดนท์หรือ M7-97 นั้นเมื่อได้ทราบความจริงที่เกี่ยวกับตัวเอง เขาก็หลบหนีออกจากการถูก BOS จับกุม ด้วยความที่มีอคติกับพวกซินท์อยู่แล้ว แม็กซันและสมาชิกของ BOS ทั้งหมดจึงเข้าใจผิดว่า แดนท์คือสปายที่ถูกส่งมาจาก Institute เพื่อมาตีเนียนล้วงความลับ เขาจึงเลือดขึ้นหน้าเป็นสีกุ้งต้ม แม็กซันจึงมีคำสั่งให้ตัวเอกไปตามล่าแดนท์และจับตายเขาในทันทีถ้าหากว่าหาตัวเจอ

หลังจากที่ได้ข้มูลมาจากเฮเลนที่ทำการติดต่อกับแดนท์อย่างลับๆว่าเขานั้นไปซ่อนตัวอยู่ที่ Listening Post Bravo ที่เป็นค่ายทางการทหารเก่า เมื่อได้เจอกับตัวเอก แดนท์ก็พูดเจรจายืนยันกับตัวเอกว่า เขาไม่รู้จริงๆว่าเขานั้นเป็นซินท์ เขาคิดว่าความทรงจำและตัวตนของเขานั้นเป็นของจริงมาตลอด แดนท์ได้ทำการขอร้องให้ตัวเอกนั้นสังหารเขาทิ้ง เพราะเขานั้นเป็นซินท์ที่ไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อ และก็จะ "ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ" แม้ว่าจะเป็นตัวของเขาเอง ซึ่งตัวเอกก็จะต้องทำการเลือกว่าจะฆ่าแดนท์ทิ้งหรือจะปล่อยแดนท์ให้หลบหนีไป และถ้าหากแดนท์รอดชีวิตในเควส Blind Betrayal แดนท์จะขอบคุณตัวเอกที่ยังคงเมตตาต่อเขา และจากคำขอร้องของตัวเอก แม็กซันเองก็สัญญาว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องแดนท์ และปล่อยให้เขามีชีวิตรอดต่อไป ไม่ส่งคนมาตามล่าอีก ตราบเท่าที่แดนท์ไม่ไปเสนอหน้าให้เขาหรือสมาชิก BOS คนอื่นๆให้เห็น

หลังจากที่ได้รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นซินท์ และไม่ว่าความทรงจำของเขาก่อนนี้นั้นจะเป็นของจริงรึของปลอม แต่แดนท์ก็จะใช้ชีวิตที่เหลือในฐานะ "มนุษย์" ต่อไป


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับแดนท์

- ถ้าหากความสัมพันธ์ของผู้เล่นกับแดนท์เต็ม ผู้เล่นก็จะได้สกิล Know Your Enemy มา ซึ่งเป็นสกิลที่จะทำให้พลังโจมตีของผู้เล่นรุนแรงขึ้นมากถึง 20% ถ้าหากกำลังต่อสู้อยู่กับพวก ghouls, super mutants และ synths

- ในช่วงท้ายของเกม ถ้าหากผู้เล่นเลือเข้าข้างฝ่าย Railroad หรือฝ่าย Institute ก่อนที่จะทำเควส Blind Betrayal ที่เป็นเควสส่วนตัวของแดนท์จบ แดนท์จะกลายเป็นศัตรูถาวรของผู้เล่นทันที และไม่สามารถนำเขามาเป็นคู่หูร่วมเดินทางได้อีก

- และหลังจากที่เควส Blind Betrayal จบแล้วและแดนท์ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าหากผู้เล่นเลือเข้าข้างฝ่าย Railroad หรือฝ่าย Institute แดนท์ก็ยังคงจะปฎิเสธที่จะเป็นคู่หูร่วมเดินทางกับตัวเอกอยู่ดี และกลายเป็น NPC ธรรมดาๆไปในทันที

- แดนท์เป็นตัวละครที่สามารถกดจีบและโรแมนติกด้วยได้ ใครอวยพ่อหนุ่มซินท์หุ่นวัวก็จัดกันไปค่ะ อิอิอิ

- แต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะโรแมนติกกับแดนท์ได้ทั้งๆที่ยังไม่เล่นจบเควส Blind Betrayal ซึ่งถ้าใครต้องการจะจีบแดนท์หรือต้องการสกิลของเขา ให้ทำเควสนี้ให้เสร็จและต้องเลือกให้แดนท์มีชีวิตรอด ไม่งั้นจะอดได้ลูกเดียวเลย ซึ่งถ้าหากผู้เล่นเล่นเนื้อเรื่องของฝ่ายอื่นจนจบโดยที่ไม่ได้เล่นภารกิจนี้ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถจีบแดนท์ซังได้อีกเลย

- หลังจากที่จบเควส Blind Betrayal ไปแล้ว แต่ท่าทางของแดนท์และคำพูดจะยังคงบ่งบอกอยู่ว่าเขาเป็นคนของ BOS แม้ว่าแดนท์นั้นจะโดนแม็กซันไล่ออกแล้วก็ตาม

- หลังจากที่จบเควส Blind Betrayal ไปแล้ว หลังจากนี้ถ้าผู้เล่นพาแดนท์มาเป็นคู่หูร่วมเดินทาง ผู้เล่นจะกลายเป็นศัตรู (ชั่วคราว) ของฝ่าย BOS ทันที การกดยกเลิกเป็นคู่หูกับแดนท์ก็จะเป็นการยกเลิกคำสั่งเป็นศัตรูของ BOS และกลายมาเป็นมิตรกับผู้เล่นเหมือนเดิม แต่คนของ BOS จะยังโจมตีไปที่แดนท์อยู่ ถ้าหากว่าแดนท์ยังคงอยู่ในรัศมีการมองเห็นของพวกเขา

- การตั้งใจส่งแดนท์ไปอยู่ที่ Boston Airport หลังจากที่ได้ฉากจบแบบ BOS จะเป็นการทำให้แดนท์กับ Liberty Prime ตบตีกันแบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะตัวของ Liberty Prime นั้นไม่มีการโจมตีใดๆที่สามารถทำร้ายเขาได้ ส่วนตัวแดนท์เองก็ฆ่าไม่ตาย ซึ่งการตบตีกันของสองหน่อนี่จะส่งผลเสียให้พวกพลทหารตัวประกอบของ BOS ตายกันเป็นเบือซะมากกว่า

- จากข้อบน ผู้เล่นสามารถที่จะฆ่าพวกทหารของ BOS ที่ไม่มีชื่อเฉพาะได้ทุกคน (รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเรือเหาะ Prydwen และที่สนามบินข้างล่าง) โดยที่ไม่เสียค่าความสัมพันธ์กับแดนท์ด้วย

- ห้าม!! ฆ่าทหารที่มีชื่อเฉพาะของ BOS เด็ดขาด ทั้งต่อหน้าและลับหลังแดนท์ เพราะนี่จะเป็นการทำให้ผู้เล่นกลายเป็นศัตรูถาวรของกลุ่ม BOS และแดนท์จะยกเลิกการเป็นคู่หูร่วมเดินทางของตัวผู้เล่นแบบถาวรทันที

- หลังจากที่จบเควส Blind Betrayal แล้ว แดนท์จะใส่หุ่น Power Armor รุ่น X-01 แทนที่หุ่น T-60 ของเขา เพราะหุ่น T-60 ตัวเก่าของเขานั้นได้ถูกแม็กซันยึดเข้ากองกลาง และกลายมาเป็นรางวัลที่แม็กซันให้แก่ตัวเอกหลังจบเควส Blind Betrayal ไปแล้ว

- คอมพิวเตอร์ในห้องพยาบาลบนเรือเหาะของ Knight-Captain Cade กับในสถานณีตำรวจที่เป็นคอมของเฮเลน จะเขียนว่าแดนท์เคยเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับและปวดหัว อันเป็นผลที่เกิดมาจากความเครียด หรือปัญหาที่คล้ายๆกัน แต่ตัวแดนท์เองปฎิเสธที่จะพักรับรักษา เพราะเขาอยากทำงานของเขาต่อมากกว่า

- ถ้าหากผู้เล่นพาแดนท์ไปยัง Vault 111 และพาเขาไปเห็นศพของคนรักของตัวเอกที่เสียชีวิตไปแล้ว แดนท์จะพูดให้เวลาตัวเอกได้ไว้ทุกข์แก่คนรักของเขาได้เต็มที่

- หลังจากที่จบเควส Blind Betrayal แล้ว บางครั้งแดนท์จะเห็นด้วยกับคำถามเชิงบวกที่เกี่ยวกับซินท์ด้วย เช่น ผู้เล่นพูดสนับสนุน Tony Savoldi (โทนี ซาโฟลดิ) ในการที่เขาจะสนันสนุนกลุ่ม Railroad เพื่อช่วยเหลือซินท์

- แต่บางครั้ง แดนท์ก็ยังคงเกลียด / ไม่ชอบ ที่ตัวเอกจะช่วยเหลือ Amelia Stockton (เอมิเลีย สต็อคตัน) ในเควส Human Error แม้ว่าผู้เล่นจะเล่นจบเควส Blind Betrayal แล้วก็ตาม

- และแดนท์ ก็ยังคงแสดงความเกลียดชังที่มีต่อ Nick Valentine (นิค วาเลนไทน์) ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะผ่านเควส Blind Betrayal มาแล้วด้วยเช่นกัน

- แม้ว่าแดนท์จะเกลียดกูล แต่เขาจะชอบในการกระทำของตัวเอก ถ้าผู้เล่นพูดจาสนับสนุน Kent Connolly (เคนท์ คอนนอลลี) ที่เป็นบทสนทนาในเควส Silver Shroud

- ก่อนที่จะทำเควส Blind Betrayal ถ้าผู้เล่นหยิบชุด BOS ที่แดนท์สวมใส่อยู่ออกมาจากช่องเก็บของๆเขา ในระหว่างเควส Blind Betrayal ผู้เล่นก็จะได้เห็นแดนท์เดินใส่กางเกางมายืนคุยกับตัวเอกและแม็กซันด้วย

- หลังจากที่ได้ฉากจบแบบ Minutemen หรือฉากจบแบบ BOS และผู้เล่นได้ทำเควส Blind Betrayal จบแล้ว และยังคงเป็นมิตรกับฝ่าย BOS อยู่ บางทีแดนท์จะพูดถึงอนาคตของ Commonwealth ที่ไม่มี Institute อยู่แล้ว และให้ความเคารพในการตัดสินใจของตัวเอกด้วย

- ในเกม แดนท์จะสวมชุด Power Armor อยู่ตลอดเวลา แต่จะไม่ได้ใส่เกราะตรงส่วนหัว ซึ่งจะแตกต่างจากคู่หูคนอื่นๆ เพราะผู้เล่นจะไม่สามารถสั่งให้เขาออกจากชุดเกราะ Power Armor ได้
และชิ้นส่วนของชุด Power Armor ของแดนท์นั้น ก็จะไม่ปรากฏในช่องเก็บของๆเขา และชุด Power Armor ของเขาก็จะไม่มีวันพังอีกด้วย

- ถ้าพาแดนท์ไปด้วยในขณะที่ทำภารกิจ Duty or Dishonor ผู้เล่นจะได้เจอบทสนทนาเฉพาะของแดนท์ที่เขาจะพูดเกี่ยวกับภารกิจนี้ให้ฟังด้วย (คู่หูคนอื่นไม่มีบทพูดแบบนี้) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นไปคุยกับ Sergeant Gavil เขาจะด่าว่าถ้าไม่มีอะไรจะทำก็ไปให้พ้นทางเขา เขาจะทำงาน ตรงนี้แดนท์ซังจะพูดเสียงเรียบขึ้นมาทันทีเลยว่า "ระวังคำพูดหน่อย Sergeant" ซึ่งพี่แกจะหงอยและพูดเพราะแต่โดยดีเลย

กับข้อมูลของแดนท์ซังเราทำการบ้านมีดีค่ะ ใครสงสัยในเรื่องของแดนท์ก็สามารถถามเราได้ทันทีเลยนะคะ เราเต็มใจตอบค่ะ อิอิ


ความคิดเห็น

  1. หลังจากจบเควส ไว้ชีวิตแดนซ์แล้ว มันไปอยู่ไหนครับ หาไม่เจอ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

Recommend