FALLOUT 4 : บทสรุปเควส Long Road Ahead P.2


บทสรุปเควส Long Road Ahead P.2 (จบเควส)

เควสส่วนตัวของ Robert Joseph MacCready

มีสปอย : เนื้อเรื่องของเควส

ต่อเนื่องจากส่วนที่แล้ว หลังจากที่ความสัมพันธ์ของตัวเอกกับ MacCready (แม็คเครดี้) นั้นเพิ่มจนถึง 750 หน่วย เนื้อเรื่องของเควส Long Road Ahead ส่วนสุดท้ายก็จะเริ่มขึ้น

แม็คเครดี้จะขอคุยกับตัวเอกเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง เขาจะขอบคุณตัวเอกในเรื่องที่ช่วยจัดการธุระของวินล็อกและบาร์เนอร์อีกครั้งหนึ่ง แต่ตัวเอกจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเพื่อนย่อมต้องช่วยเหลือเพื่อนและไม่ต้องการคำขอบคุณอยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้น แม็คเครดี้ก็เข้าใจ แต่เพื่อความสบายใจของเขาเองด้วย ยังไงแม็คเครดี้ก็ขอที่จะพูดขอบคุณกับตัวเอกให้ได้ เขาจะบอกด้วยว่าการที่ตัวเอกเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องของไอ้พวกเวรพวกนั้น เขาจะไม่มีวันลืมเด็ดขาดเลย แต่ทว่าพอแม็คเครดี้เผลอหลุดพูดคำพูดหยาบๆออกไป เขาก็ตัดบทสนทนาของตัวเอกและใช้คำพูดใหม่ให้ดูเรียบร้อยขึ้น


เมื่อตัวเอกเห็นว่าแม็คเครดี้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ยังคงเลี่ยงที่จะใช้คำหยาบแบบเด็กๆ หรืออาจจะเพราะรำคาญที่เห็นแม็คเครดี้นั้นชอบพูดตัดบทสนทนาเพื่อแก้คำพูดของตัวเองบ่อยๆเข้าก็ไม่รู้ เขาจึงตั้งคำถามกับแม็คเครดี้ไปตรงๆเลยว่าทำไมถึงไม่ต้องการที่จะพูดคำหยาบด้วย?

แม็คเครดี้ก็ทำหน้าเศร้าและบอกว่า เขารู้ดีว่าตัวเอจะต้องตั้งคำถามแบบนี้กับเขาในเร็ววันแน่นอน และที่เขาเลี่ยงที่จะไม่ใช้คำหยาบนั้น เป็นเพราะว่าเขาได้สัญญากับคนๆหนึ่งเข้าไว้ ในตอนที่แม็คเครดี้เดินทางออกมาจากเขต Capital Wasteland เขาได้ละทิ้งค่าย Little Lamplight ที่เขาเคยอาศัยอยู่ในวัยเด็กไว้ และยังได้ละทิ้งครอบครัวที่อยู่ที่นั่นไว้ด้วย ซึ่งแม็คเครดี้ก็จะบอกอีกว่า เขานั้นเป็นคนที่มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว มีภรรยาที่งดงามคนหนึ่งที่ชื่อว่า Lucy (ลูซี่) และมีลูกชายที่เป็นพยานรักที่ชื่อว่า Dancun (ดันแคน) แล้วด้วย

ซึ่งลูกชายของเขานี่แหละที่เป็นคนที่เขาให้สัญญาไว้ว่าจะไม่พูดคำหยาบอีก เพราะแม็คเครดี้นั้นต้องการที่จะเป็นคนที่ดีกว่านี้เพื่อตัวของลูกเขาเอง แต่มันคงจะดูน่าตลกไม่น้อยที่นักฆ่ามือเปื้อนเลือดคนนี้พยายามจะทำตัวให้เป็นคุณพ่อที่แสนดี ตัวเอกก็ได้แต่ปลอบใจไปว่า นี่น่ะเป็นเหตุผลที่ดีแล้ว ซึ่งแม็คเครดี้ก็จะยอมรับว่า เขาพยายามที่จะบอกกับตัวเองอยู่ทุกวันว่าสิ่งที่เขาต้องการจะเป็นคนดีนี้เขาได้ทำถูกต้องแล้ว

แต่ทว่าความทุกข์ในใจของแม็คเครดี้นั้นดูเหมือนจะไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เขาจะบอกกับตัวเอกอีกว่าในตอนนี้นั้นลูกชายของเขาป่วยด้วยโรคประหลาดที่ไม่มีใครรู้จักอยู่ เป็นโรคที่จะมีผื่นและตุ่มสีฟ้าขึ้นอยู่ตามตัวไปหมด และในตอนที่แม็คเครดี้ได้เห็นว่าลูกชายของเขาป่วยด้วยอาการแบบนี้ในวันแรก เขาก็จะเป็นลม ด้วยอาการที่แย่ของลูกชายเขา แม็คเครดี้ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะชวนลูกชายของเขาให้มาที่เขต The Commonwealth พร้อมกับเขาด้วย และจริงๆแล้ว เขาก็ไม่มั่นใจด้วยว่าลูกชายของเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน


ด้วยความที่เป็นหัวอกของคนเป็นพ่อ และคนที่มีลูกชายเหมือนกัน ตัวเอกจึงได้เสนอตัวว่าถ้ามีอะไรที่เขาพอจะช่วยแม็คเครดี้ได้ก็ขอให้เสนอมาได้เลย แม็คเครดี้จะบอกว่า ไม่กี่เดือนก่อนหน้าก่อนที่ตัวเอกนั้นจะได้เจอกับเขา เขาได้พบกับบุคคลผู้หนึ่งที่รู้จักโรคผื่นสีฟ้า โรคที่ลูกชายของแม็คเครดี้เป็นนั้นดีมากพอ และรู้ว่ายารักษาโรคนั้นอยู่ที่ไหนด้วย ซึ่งตอนแรกนั้นแม็คเครดี้ก็คิดว่าเสียเวลาที่จะไปหลงคำพูดของคนแปลกหน้าแบบนี้ แต่ทว่าบุคคลนั้นกลับมีข้อมูลของโรคผื่นสีฟ้า และบอกด้วยว่ายารักษาโรคนั้นอยู่ที่ตึกวิจัยทางการแพทย์ Med-Tek Research ที่อยู่ในเขต The Commonwealth อีกทั้งยังรู้จักโครงสร้างภายในของตึกการแพทย์ได้ดีมากพอด้วย

แต่แม็คเครดี้เล่าว่าโชคไม่เข้าข้างเขา เพราะบุคคลที่รู้จักโรคนั้นกลับเสียชีวิตลงไปแล้วก่อนที่จะพาแม็คเครดี้ไปเอายารักษาที่นั่นเสียอีก และด้วยตัวเองเพียงลำพังเขาก็ไม่มีทางที่จะเข้าไปที่ตึกทางการแพทย์นั่นได้คนเดียวด้วย เพราะที่นั่นมีผีกูลอยู่เต็มไปหมด ตัวเอกก็จะพูดให้กำลังใจว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ ถ้ามียาอยู่ในตึกนั่นจริง เขาก็จะไปหามันมาให้แก่แม็คเครดี้แน่นอน แม็คเครดี้เมื่อได้ยินดังนั้นก็พูดขอบคุณกับตัวเอกอีกครั้นหนึ่ง และเขาจะบอกให้ว่า Med-Tek Research นั้นตั้งอยู่ส่วนไหนของแผนที่ ถ้าตัวเอกพร้อมแล้วก็ให้เดินทางพาเขาไปที่นั่นได้เลย เพราะเขามีของที่จำเป็นในการเข้าตึกการแพทย์อยู่กับตัวครบแล้ว และแม็คเครดี้จะบอกด้วยว่า สิ่งที่ตัวเอกให้ความช่วยเหลือแก่เขานั้น เขาซาบซึ้งจริงๆ เพราะไม่เคยมีใครที่ทำดีกับเขามามากขนาดนี้มาก่อน และถ้าจบงานนี้ลงแล้ว เขาจะตอบแทนตัวเอกให้สมน้ำสมเนื้อแน่นอน


เมื่อพร้อมแล้วก็ให้ผู้เล่นเดินทางไปที่ Med-Tek Research ซึ่งบริเวณอาคารการแพทย์นั้นจะเต็มไปด้วยศัตรูที่เป็น Feral ghoul ทั้งหมด ให้กำจัดผีกูลด้านนอกให้หมดและเข้าไปในอาคารได้เลย (ระวังลูกหลงจากรถที่อยู่หน้าตึกมันจะระเบิดด้วย) เมื่อเข้าไปในทางเข้าหลักแล้วจะเจอห้องปลอดเชื้อ แต่ทว่าทางเข้ามันล้อกอยู่เลยต้องทำการรีเซ็ตรหัสป้องกันภัยซะก่อน ให้มองหาทางเข้าเล็กๆที่อยู่ตรงข้ามกับห้องปลอดเชื้อไป มันจะเป็นบันไดที่นำไปสู่ชั้นบน ให้กำจัดผีกูลตามทางและขึ้นไปยังห้องควบคุมด้านบนสุด (ตรงนี้พยายามสั่งให้ตาแม็คให้เขามาที่ห้องควบคุมด้วยเด้อ เพราะบางทีพี่แกจะไม่เดินมาเอง ซึ่งถ้าตาแม็คไม่มาจะไม่ได้คีย์ไอเท็มด้วย)

เมื่อมาถึงยังห้องควบคุมแล้ว แม็คเครดี้จะให้รหัสในการเข้าคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Jacob's Password มา


ให้กดเข้าคอมพิวเตอร์ที่ล็อกอยู่และเลือกหัวข้อว่า [Alert Override : Off] เพื่อเป็นการปิดระบบป้องกันภัยและปลดล็อกประตูให้ใช้งานได้ จากนั้นให้เดินทางลงไปยังห้องปลอดเชื้อตามเดิม และกดปลดล็อกประตูจากคอมพิวเตอร์ที่อยู่ด้านหน้าและเลือกว่า [Open Airlock Doors] เมื่อประตูเปิดแล้วให้เดินผ่านห้องปลอดเชื้อไปจะเจอเคาเตอร์รักษาความปลอดภัยและคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้อีกจุดหนึ่ง ให้กดเข้าคอมพิวเตอร์และเลือกหัวข้อ [Security Door Control] เพื่อปลดล็อกประตู และเลือกหัวข้อ [Turret Control] เพื่อปิดการทำงานของป้อมปืนซะ หลังจากเปิดประตูแล้วก็เตรียมรับศึกผีกูลบุกได้เลย เพราะมีศัตรูอยู่แทบทุกห้อง

เมื่อกำจัดศัตรูแล้วให้เดินตามทางไปจะพบกับลิฟต์ ให้เข้าลิฟต์ไปแล้วจะได้ลงไปยังห้องวิจัยที่อยู่ใต้ดิน เมื่อเดินตามทางไปเรื่อยๆจะพบกับห้องกักขังผู้ป่วย และจะมีป้อมปืนดักอยู่ด้วย ให้เดินไปยังฝั่งตรงข้ามของห้องจะพบว่ามันมีคอมพิวเตอร์อยู่ (อีกแล้ว) ให้กดเข้าหัวข้อ [Security Door Cotrol] เพื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยตามเดิม หรือจะเลือกหัวข้อ [Turret Control] เพื่อปิดป้อมปืน และเลือกหัวข้อ [Protectron Control] เพื่อให้หุ่นยนต์มาร่วมตบผีกูลด้วยก็ได้ และเมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วก็เตรียมรับกับศึกผีกูลถล่มอีกระลอกได้เลย เมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้วก็ให้ลงบันไดกลางมายังชั้นล่าง และมองหาห้องพักห้องหนึ่งที่พื้นถล่มเพื่อเดินลงไปสู่ชั้นล่างของอาคารอีกที


หลังจากที่ลงมายังชั้นล่างแล้วให้กำจัดศัตรูและเดินไปตามทางก็จะเจอกับห้องวิจัยยาแต่ทว่ามันถูกล็อกอยู่ ให้กดเข้าคอมพิวเตอร์และเข้าหัวข้อ [Security Door Control] เพื่อเปิดประตูตามเดิม ให้กำจัดผีกูลในห้องให้หมด รวมถึงพี่ผีกูลเขียวเสวย Glowing one ด้วย (ในห้องนี้จะมีหนังสือ Massachusetts Surgical Journal ให้เก็บด้วยนะ โดยหนังสือมันจะวางอยู่ริมๆขอบโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกับเตาปฏิกรณ์)

และเมื่อกำจัดศัตรูหมดแล้ว ตัวเอกจะได้พบกับยาที่จะรักษาโรคผื่นสีฟ้าได้นั้นจะวางอยู่ตรงกลางของเคาเตอร์ ให้หยิบมาและไปคุยกับแม็คเครดี้ เขาจะดีใจและจะบอกว่าในที่สุดลูกชายของเขาก็จะรอดตายสักที อีกทั้งการช่วยเหลือของตัวเอกในคราวนี้ก็ทำให้แม็คเครดี้นั้นติดหนี้ชีวิตแก่ตัวเอกหนใหญ่เลยทีเดียว แต่ทว่าสิ่งที่ตัวเอกต้องการนั้นไม่ใช่ของตอบแทน แต่เป็นการที่ลูกชายของแม็คเครดี้นั้นจะต้องหายป่วยมากกว่า แม็คเครดี้จึงได้ตอบว่า สิ่งสุดท้ายที่เขาเป็นห่วงนั้นคือจะต้องส่งยานี่ไปให้กับ Daisy (เดซี่) แม่ค้าที่เป็นกูลที่เปิดร้านค้าอยู่ในเมือง Goodneighbor เพื่อให้เธอจัดส่งยาไปให้ถึงมือลูกชายของเขา เพราะเดซี่นั้นเป็นคนที่แม็คเครดี้เชื่อใจเพียงคนเดียวที่จะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ และแม็คเครดี้ก็ได้พูดทิ้งท้ายด้วยว่า คราวนี้เขาจะรบกวนตัวเอกเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆแล้ว


เมื่อพร้อมแล้วก็ให้ผู้เล่นเดินทางไปพบเจ๊เดซี่ที่เมือง Goodneighbor ได้เลย (แต่ก่อนที่จะกดคุยกับเจ๊แกนั้นจะต้องให้มั่นใจด้วยเด้อว่าตัวของแม็คเครดี้อยู่ในบริเวณวงสนทนาด้วย ไม่งั้นเควสไม่เดินเพราะเจ๊จะพูดด้วยบทขายของ) เมื่อเดซี่ได้เห็นแม็คเครดี้เธอก็จะพูดทักทายและหยอกล้อเขานิดหน่อย จากนั้นก็จะเข้าเรื่องและถามว่าวันนี้แม็คเครดี้มีเรื่องอะไรให้เธอช่วยหรือ?

แม็คเครดี้จะตอบไปว่าเขาสามารถหายามารักษาลูกชายของเขาได้แล้ว เดซี่จะประหลายใจและถามแม็คเครดี้ว่าเขาทำได้ยังไง เพราะครั้งล่าสุดที่แม็คเครดี้เดินทางด้วยตัวคนเดียวไปที่ Med-Tek Research นั้นก็แทบจะโดนผีกูลไล่กัดดากและเป็นอาหารกับพวกมันอยู่รอมร่อ แม็คเครดี้ก็จะบอกไปว่าเขาไม่ได้ทำคนเดียว เพื่อนของเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้นั้นเป็นคนช่วยเขาให้หายาจนเจอ และสิ่งที่เขาต้องการก็คือการส่งยาให้ถึงมือลูกชาย และจะถามกับเดซี่ว่าเธอพอจะช่วยในเรื่องนี้ได้ไหม?


เดซี่ตอบว่าได้แน่นอน เพราะในอดีตแม็คเครดี้เคยช่วยเหลือเดซี่จากการถูกก่อกวนร้านเอาไว้ สิ่งที่เธอพอจะทำได้เธอก็อยากจะทำให้เขาตอบแทนไปบ้าง หลังจากนั้นเดซี่จะหันมาบอกกับตัวเอกว่าให้เชื่อใจเธอได้เลย ตัวเอกก็จะตอบไปว่า ถ้าแม็คเครดี้เชื่อใจเดซี่ล่ะก็ มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้ตัวเอกนั้นสบายใจได้ เดซี่จึงได้บอกว่าเธอจะทำการจัดส่งยาให้กับกองคาราวานกองแรกที่จะเดินทางออกจาก The Commonwealth เลย เพื่อให้ยาไปถึงมือผู้ป่วยได้เร็วที่สุด และจะพูดทิ้งท้ายด้วยว่า ขอให้ตัวเอกช่วยดูแลแม็คเครดี้ด้วย เพราะพ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนดีชนิดที่ว่าตามตัวหาจับยากเลยทีเดียว

หมายเหตุ

- ถ้าหากว่าผู้เล่นเข้าไปยัง Covenant และเก็บบันทึกที่ชื่อว่า Jacob's password มาแล้ว และมีบันทึกนั้นติดตัวก่อนที่จะเข้าไปยังอาคารการแพทย์ Med-Tek Research จะทำให้แม็คเครดี้นั้นไม่ให้รหัสผ่านในการเข้าถึงการปลดล็อกคอมในตอนแรก (เพราะชื่อบันทึกมันดันชื่อ Jacob's password เหมือนกัน) จะมีวิธีแก้ก็คือการให้แม็คเครดี้เดินไปถึงยังห้องควบคุมก่อน แล้วเขาจะให้รหัสผ่านคอมพิวเตอร์มาเอง

ความคิดเห็น

  1. แอดรินครับแล้วถ้าเราได้ พาสเวิดมาแล้วเรา สามารถเข้าไปปลดล๊อกได้เลยรึเปล่าครับทั้งๆที่ ยังไม่ได้เควสLong Road Ahead ขึ้นมา
    (ขี้เกียจรอค่าความสำพัน) สามารถทำได้เปล่าครับเควสจะจบเหมือนกันรึเปล่าครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

Recommend