FAR CRY 5 : ข้อมูลและประวัติของ John Seed


ข้อมูลและประวัติของ John Seed

มีสปอย : ข้อมูลของตัวละคร และเนื้อหาบางส่วนของเกม

John Seed (จอห์น ซีด) เป็นตัวละครที่มีบทบาทในตัวเกม Far Cry 5 และหนังสั้นที่มีชื่อว่า Inside Eden's Gate ในกลุ่มสามพี่น้องตระกูลซีด จอห์นนั้นเป็นน้องคนสุดท้องหรือก็คือเขาเป็นน้องชายของ Joseph Seed (โจเซฟ ซีด) พี่ชายคนกลางและ Jacob Seed (จาค๊อบ ซีด) พี่ชายคนโต อีกทั้งจอห์นยังเป็นตัวละครหนึ่งในสี่ที่เป็นตัวร้ายหลักใน Far Cry 5 โดยที่จอห์นนั้นมีบทบาทเป็นผู้ที่ครอบครองเขต Holland Valley อยู่

ประวัติความเป็นมา

จอห์นทำหน้าที่เป็นฝ่ายทนายความให้แก่ลัทธิ เพราะเขาต้องการที่จะปกป้องครอบครัวของเขาโดยใช้ระบบทางกฎหมายเป็นตัวช่วย

ในอดีต หลังจากที่ครอบครัวซีดนั้นได้แตกแยกกันไปคนละทางไป สามพี่น้องแห่งตระกูลซีดก็ได้ถูกกระจายตัวไปยังบ้านเด็กกำพร้าที่อยู่ตามที่ต่างๆห่างกันออกไป ในตอนนั้นจอห์นก็ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัว Duncan (ครอบครัวดันแคน) ครอบครัวที่ร่ำรวยและเคร่งศาสนาที่มาจาก Atlanta

ตามบันทึกจาก The Book of Joseph สมาชิกในครอบครัวของดันแคนนั้นมีความคิดว่าดวงวิญญาณของจอห์นนั้นด่างพร้อยและไม่บริสุทธิ์ พวกเขาจึงได้ทำการทรมานในเชิงจิตวิทยาใส่จอห์น ให้เขาสารภาพบาปทั้งหมดโดยที่เขาไม่มีความผิดอะไร โดยทำผ่านการสอบปากคำจากฝีมือของนักบวชผู้ที่เชื่อถือหลักเดิมของศาสนาคริสต์

ในตอนนั้นจอห์นเข้าใจว่า แม้เขาจะไม่ได้ทำความผิดอะไรมา หรือมีอะไรที่จะต้องซ่อน แต่เขามีความคิดว่าเขาก็คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ด้วยความคิดนั้นเลยทำให้ปัจจุบันจอห์นเลยกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์พิเศษ เขาสามารถปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองและแสดงสิ่งที่ตรงข้ามกันให้คนอื่นเห็นโดยที่ไม่มีใครดูออกได้ และต่อมาความสามารถนี้ก็เป็นผลทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดการทางจิตวิทยา และใช้ทักษะนี้เพื่อแสวงหาความลับเกี่ยวกับคนอื่นเพื่อเอามันมาเป็นผลประโยชน์ของตนเองได้

หลังจากที่จอห์นเรียนจบจากมหาวิทยาลัย East Coast University (มหาวิทยาลัยอีสต์แคโรไลนา) อันทรงเกียรติและสำเร็จการศึกษาในวิชาที่เขาเรียนอยู่ จอห์นก็กลายเป็นทนายความคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงเติบโตเร็วที่สุดในแอตแลนตา อีกทั้งมรดกจำนวนมากที่ได้มาจากการตายของพ่อแม่ของเขา เลยทำให้จอห์นกลายเป็นคนที่ร่ำรวย และจากจุดนี้ เขาก็คิดว่าตัวของเขาเองเป็นสัญญาณทางกายภาพของความสำเร็จ

แต่อย่างไรก็ตามจากเรื่องนี้ จอห์นกลับไม่ชอบตัวของเขาเอง รวมไปถึงสังคมที่อยู่รอบตัวเขาด้วย เพราะสิ่งที่เขาได้รับมาในวัยเด็กของเขานั้นกลายเป็นปมที่ใหญ่หลวงจนเขามีความต้องการที่อยากจะทำลายมัน

จนช่วงเวลาหนึ่ง โจเซฟที่เป็นพี่ชายของจอห์นก็ได้ติดต่อมาหาเขา จอห์นก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทกฎหมายรายใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลและดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในบ้านเกิดของพวกเขาที่กรุงโรม และหลังจากที่ได้พบปะกันในครั้งนั้น จอห์นก็ได้ร่วมมือกับโจเซฟภายใต้บทบาทของผู้ที่ทำหน้าที่การรับสารภาพบาปแห่งโครงการ Eden's Gate

และเมื่อครอบครัวซีดได้เดินทางกันมายัง Hope County แล้ว จอห์นก็สามารถใช้ทรัพย์สมบัติของเขาในการแสวงหากวานซื้อที่ดินและฟาร์มมาครอบครองได้โดยที่ไม่ต้องลงมือให้ยุ่งยาก และอีกอย่างหนึ่งคือ จอห์นเองก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับระบบการเมืองและกฎหมายของมณฑลท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วแล้วด้วย

บางที ถ้าไม่นับเรื่องที่ว่าจอห์นนั้นเป็นคนที่ซาดิสต์มากที่สุดในบรรดาสมาชิกในครอบครัวซีดทั้งหมดสี่คน จอห์นก็ดูท่าที่จะไม่มีอะไรให้นึกถึงเขาเป็นอันดับแรกเลย เพราะเขานั้นมีชื่อและรู้จักกันในฐานะ "The Baptist" หรือแปลได้ว่า "ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนต์" จอห์นแค่ต้องการให้คุณได้เห็นบาปที่ตัวเองมี และสิ่งที่ตัวของคุณเองนั้นได้ทำลงไป อีกทั้งจอห์นยังเป็นมือสักที่เขาจะสัก "บาป" ให้ลงบนร่างกายของคุณด้วย

ในตอนเด็ก เมื่อจอห์นอายุยังน้อย เขาถูกพาตัวเข้าไปในห้องครัวโดยพ่อแม่ของเขา และถูกทุบตีจนหมดสติ สิ่งที่เขาทำได้คือมีแค่เพียงการพูดคำว่า "Yes (ใช่ , ตกลง)" ออกมา ซึ่งคำพูดนี้ก็ได้เป็นสโลแกนติดตัวของจอห์นไปตลอดทั้งเกม

จอห์นเคยพูดออกมาเป็นนัยๆด้วยว่า เขาเป็นคนโง่เง่าและเป็นคนซาดิสต์ และจากคำพูดของโจเซฟในฉากคัทซีนหลังจากที่จอห์นเสียชีวิตไปแล้ว เขาได้บอกด้วยว่าเมื่อตอนที่จอห์นยังเป็นเด็ก เขาเป็นคนใจดีและเป็นที่รักใคร่ ซึ่งจุดนี้นั้นมันเลยทำให้จอห์นกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการถูกทำร้ายและการแสวงหาประโยชน์ไปโดยปริยายด้วย


จอห์นกับเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นใน Far Cry 5

ในช่วงแรกที่เกมได้เปิดตัวจอห์นอย่างเป็นทางการ คือเขานั้นกำลังออกอากาศทางโทรทัศน์ เพื่อบอกให้ทุกคนได้ทราบกันว่า เขาสามารถปลดปล่อยทุกคนให้พ้นออกจากบาปของตัวเองได้ด้วยการพูดแค่คำว่า "Yes" อีกทั้งในรายการทางโทรทัศน์อันเดียวกัน จอห์นยังจงใจที่จะเปิดเผยให้ตัวเอกได้เห็นด้วยว่า เขามีเจ้าหน้าที่ Joey Hudson (โจอี้ ฮัดสัน) เป็นตัวประกันมาไว้ในความครอบครองของเขาอยู่ อีกทั้งจอห์นยังประกาศให้ทราบโดยทั่วกันเลยว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้รับการคัดเลือกให้ชำระล้างบาปโดยเขา ผู้ที่ได้รับเลือกนั้นไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย เพราะเขาจะไปต้อนรับและพาเข้าสู่โครงการ Eden's Gate กันให้แบบถึงที่เลยทีเดียว


หลังจากที่ผู้เล่นได้เข้าไปทำความหายนะให้แก่เขต Holland Valley ที่เป็นพื้นที่ของจอห์นเข้าไว้มากๆ สักพักจอห์นก็จะส่งทีมงานคุณภาพมาออกล่าและจับตัวของตัวเอกไป เพื่อให้เข้าไปรับและทำพิธีการชำระล้าง และในพิธีชำระล้างที่จอห์นจัดขึ้น เขายินดีที่จะต้อนรับผู้ที่ดวงซวยโดนไปทำพิธีกรรมคนอื่นๆอย่างยินดีและนอบน้อม แต่ทว่าพอถึงคิวของตัวเอกนั้น จอห์นกลับบอกตัวเอกมาว่าเขายังไม่สะอาดพอที่จะเข้าไปสู่โครงการ Eden's Gate ด้วยซ้ำไป เมื่อพูดจบ จอห์นจึงพาตัวเอกไปที่ริมน้ำและทำการกดน้ำเพื่อชำระล้างอีกครั้ง จนกระทั่งโจเซฟ พี่ชายของจอห์นได้ปรากฏตัวขึ้น เขาวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิจอห์นเล็กน้อยว่ากำลัง "เยาะเย้ยพิธีชำระล้าง" อยู่เช่นนั้นหรือ อีกทั้งโจเซฟก็ได้บอกกับจอห์นด้วยว่า การไปทำแบบนี้กับตัวเอกนั้นไม่ได้ทำให้ตัวเอกหลุดพ้นจากบาปด้วยซ้ำไป


ต่อมา จอห์นได้ส่งทีมงานไปจับกุมตัวเอกอีกครั้ง เขาพาตัวเอกไปยังที่ John's Gate หรือที่บังเกอร์ของเขาเอง ตัวเอกได้ถูกจับตัวไปยังห้องทรมาน ที่ภายในห้องนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ฮัดสันอยู่ด้วย แต่แย่หน่อยที่ทั้งตัวเอกและฮัดสันต่างก็ถูกมัดอยู่บนเก้าอี้สำนักงานที่มีล้อเลื่อน ในตอนนั้นจอห์นก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาเล่าให้ฟังว่าในตอนที่เขายังเป็นเด็ก พ่อแม่ของเขาสอนเขาให้รู้ซึ้งถึงพลังของคำว่า "ใช่" และพวกเขาก็ได้ทำร้ายร่างกายของจอห์นซ้ำไปมาจนกว่าเขาจะเรียนรู้ จากนั้นจอห์นก็กล่าวว่า ทุกคนที่ผ่านการเข้าร่วมกับพิธีชำระล้างมาแล้ว จะต้องมีรอยสักที่แสดงบาปของตนอยู่บนร่างกายด้วย เพื่อที่จะสามารถเปิดเผยบาปนั้นได้ จอห์นได้บอกกับตัวเอกว่าเขานั้นเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง เพราะฉะนั้นบาปของตัวเอกจึงจะต้องเป็น Wrath หรือความโกรธอย่างแน่นอน 

จากนั้นเขาก็ฉีกเสื้อของตัวเอกออก และจอห์นก็ได้บอกมาว่าในตอนนี้นั้นได้ถึงเวลาสารภาพบาปกันแล้ว และให้เลือกว่าระหว่างตัวเอกกับฮัดสันนั้นใครที่จะยอมโดนกันก่อน ในตรงนี้ตัวเอกสามารถอาสาเจ็บตัวก่อนได้โดยการพูดคำว่า "ใช่" ออกมา หรือปฏิเสธที่จะตอบสนองใดๆก็ได้ แต่ถ้าเลือกที่จะปฎิเสธก็จะทำให้จอห์นโกรธและเดือดจนถึงขีดสุด เขาลงมือคว่ำชั้นวางของลงด้วยความรุนแรง และบอกมาว่าจะพาตัวเอกเข้าพิธีก่อนละกัน แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น จอห์นก็ได้พาตัวฮัดสันออกไปเก็บยังห้องของเธอเพื่อที่จะเคลียร์ทางที่เขาจะทำพิธีให้แก่ตัวเอกก่อน และในช่วงนั้นตัวเอกก็ได้ถูกทิ้งให้อยู่ในห้องเพียงคนเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะใช้จังหวะนี้หนีออกไปจากบังเกอร์ของจอห์นให้ได้


ในที่สุดจอห์นก็เหลืออดกับตัวเอก เพราะตัวเอกนั้นได้ทำความเสียหายอย่างมากในเขตแดนของจอห์น จอห์นจึงได้ติดต่อมาบอกกับตัวเอกว่าเขานั้นได้ทำการยึด Falls End ย่านชุมชนแห่งหนึ่งของเขต Holland Valley เอาไว้แล้ว และบอกกับตัวเอกว่าถ้าต้องการช่วยเหลือพวกพ้องที่อยู่ที่นี่ก็ให้เดินทางมายังที่โบสถ์ในย่าน Falls End เพราะเขาได้มาทำการรอรับตัวของตัวเอกอยู่ที่นี่แล้ว และเมื่อตัวเอกได้ไปถึงยังโบสถ์ เขาก็ได้ถูกปืนตีจนสลบและถูกจับตัวไป จนเมื่อตัวเอกนั้นได้สติตื่นขึ้นมา ก็พบว่าจอห์นนั้นกำลังลงมือสักบาปให้แก่ตัวเอกบนหน้าอกเสร็จสิ้นพอดี จากนั้นจอห์นจึงได้พาตัวเอกให้มาเข้าร่วมพิธีการไถ่บาปที่มี Jerome Jeffries (เจอโรม เจฟฟรีส์) , Mary May Fairgrave (แมรี่ เมย์ แฟร์เกรฟ) และ Nick Rye (นิค ไรย์) ที่บัดนี้นิคเองก็มีรอยสักบาปของตัวเขาเองอยู่บนหน้าอก เข้าร่วมพิธีเป็นสักขีพยานอยู่แล้ว

จอห์นได้บังคับให้นิคร่วมมือ พยายามพูดกล่อมทำให้เขายอมวางมือลงบนหนังสือคัมภีร์ของลัทธิ และให้นิคสาบานว่าจะยอมรับการไถ่บาป ในตอนแรกบาทหลวงเจอโรมปฎิเสธที่จะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อ แต่เขาก็ถูกลูกน้องของจอห์นทำร้ายร่างกายจนเขาต้องยอมทำตาม แต่ต่อมานิคก็ปฎิเสธที่จะทำตามคำพูดของจอห์นบ้าง จอห์นเลยประชดด้วยการพูดถึงบาปจากความโลภที่นิคมี บอกกับนิคว่าที่นิคเป็นคนดื้อแบบนี้เพราะตัวจนของนิคเองจริงๆด้วยซ้ำไป


และสักพัก จอห์นก็ได้ทำการกระซิบกระซาบพูดอะไรสักอย่างให้แก่นิคได้ฟังที่ข้างหู (ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของครอบครัวของนิคเอง) จนทำให้นิคนั้นต้องเปลี่ยนไปยอมรับข้อเสนอของจอห์นอย่างง่ายดาย และตกลงที่จะได้รับการไถ่บาป จอห์นจึงได้ทำการจับตัวของนิคให้นอนลง ก่อนที่จะลงมือใช้มีดตัดรอยสักคำว่าโลภที่ถูกสักอยู่บนหน้าอกของนิคออก และเมื่อตัดออกมาแล้ว จอห์นก็ได้เอาแผ่นหนังนั้นเย็บติดไปที่ผนังของโบสถ์ด้วยความชื่นชม 

แต่ในช่วงเวลาที่จอห์นกำลังวุ่นวายอยู่นั้น เจอโรมก็ได้ทำการสับเปลี่ยนหนังสือของลัทธิที่เขาถืออยู่เข้ากับหนังสือของเขาเองที่ได้ทำหล่นไว้ในตอนก่อนหน้าเข้าไป ต่อมาจอห์นจึงได้พยายามที่จะทำพิธีขั้นตอนเดียวกันกับที่นิคเจอเข้าไปใส่ตัวเอกบ้าง เขาให้ตัวเอกตอบรับหนังสือที่เจอโรมถืออยู่ แต่จอห์นหารู้ไม่ว่าหนังสือนั้นได้ถูกสับเปลี่ยนไปแล้ว และภายในหนังสือของเจอโรมเองก็มีปืนซ่อนอยู่ภายใน เป็นโอกาสที่ให้ตัวเอกได้หยิบปืนจากในหนังสือขึ้นมายิงใส่จอห์น แต่ทว่าลูกกระสุนปืนกลับพลาดและได้เฉี่ยวหูของจอห์นไป

ต่อมา ตัวเอก , เจอโรม และแมรี่ก็ได้ทำการยึดพื้นที่ในโบสถ์คืนมาได้อีกครั้ง ในขณะที่เจอโรมได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นรักษาแผลของนิคอยู่นั้น แมรี่ก็ได้เริ่งให้ตัวเอกได้ขึ้นรถไปยังที่บ้านพักที่เป็นที่ซ่อนตัวของจอห์น เพื่อที่คราวนี้พวกเขาจะจัดการกับปีศาจร้ายตนนี้ลงให้ได้


ต่อมา ตัวเอกก็ได้ขึ้นขับเครื่องบินไล่ตามจอห์นขึ้นไปยังบนท้องฟ้า อีกทั้งยังมีแรงซับพอร์ตจากนิคเข้ามาไล่ล่าจอห์นด้วยอีกแรง (ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ทำการเลือกเขามาเป็น Roster) และหลังจากที่เครื่องบินของจอห์นได้ถูกทำลายลง เขาก็ได้ดีดตัวออกมาจากร่มชูชีพเพื่อที่จะร่อนลงสู่พื้นดิน แต่ด้วยความที่จอห์นนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากตัวเอก จึงทำให้เขานั้นไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้ไกล จนในที่สุดก็ได้ถูกตัวเอกไล่ล่าอีกครั้ง 

ผลสุดท้ายเลยทำให้จอห์นต้องฝ่ายแพ้ ในช่วงที่จอห์นหมดแรงฮึดสู้และล้มตัวลงนอน ตัวเอกก้ได้เข้าไปคว้ากุญแจดอกเล็กๆที่จอห์นมักจะสวมใส่เป็นสร้ายที่คอของเขาอยู่เสมอเข้า แต่จอห์นก็ได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเข้ามาคว้าข้อมือของตัวเอกไว้ เขาตั้งคำถามแก่ตัวเอกว่าจะทำยังไงถ้าหากว่าสิ่งที่โจเซฟได้พูดขึ้นนั้นมันถูกต้อง และวันสิ้นโลกก็กำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่ตัวเอกก็ไม่ได้สนใจในสิ่งที่จอห์ได้พูดไป เขาดึงสร้อยคอของจอห์นออก จนทำให้จอห์นต้องต่อว่าตัวเอกว่า ตัวเอกนั้นจะไม่สามารถช่วยใครไว้ได้เลย เขาสวดภาวนาให้พระเจ้ามีเมตตาต่อดวงวิญญาณของตัวเอก ก่อนที่จอห์นจะยอมจำนวนต่อบาดแผลของเขาและเสียชีวิตลงในที่สุด ปิดฉากชีวิตน้องชายคนสุดท้องของกระกูลซีดให้จบลงไว้เพียงแต่เท่านี้


หมายเหตุ

- จอห์นมีอายุ 32 ปี

- จอห์นเป็นผู้ชายตัวเล็กผอม เขามีเส้นผมสีน้ำตาล ดวงตาสีฟ้าและเคราแพะที่มีขนาดใหญ่ ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสักทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เต็มไปทั่ว ส่วนรอยสักที่น่าสังเกตมากที่สุดก็คือรอยสักคำว่า "Sloth" บนหน้าอกของเขา ชุดเสื้อผ้าที่จอห์นสวมใส่ปกติคือชุดที่ประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้า (ในส่วนของเสื้อเชิ้ตจอห์นปลดกระดุมไปจนถึงฐานหน้าอก) , กางเกงยีนส์สีดำและเสื้อกัีกสีดำที่เข้าชุดกัน อีกทั้งในรายการทางโทรทัศน์ของจอห์น ก็เผยให้เห็นว่าเวลาที่เขาออกงาน จอห์นก็มัจะสวมเสื้อคลุมยาวสีนำตาลด้วย

- จอห์นมีรอยสักที่เขียนไว้ว่า "Sloth" ถูกสักอยู่เป็นแนวนอนตรงหน้าอก เผยให้เห็นว่าบาปของตัวของจอห์นเองนั้นก็คือความเฉื่อยชา

- เสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลของจอห์น ลายเสื้อจะเป็นรูปเครื่องบินรูปเล็กๆ และส่วนกระดุมของเสื้อก็จะมีรูปตาชั่งแห่งความยุติธรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของอาชีพทนายติดอยู่ด้วย

- จอห์นเป็นตัวละครเดียวในครอบครัวซีด ที่เมื่อเขาตายไปแล้วผู้เล่นจะสามารถอุ้มศพของเขาขึ้นมาแบกและลากศพไปยังพื้นที่อื่นๆได้ (แต่ลากไปมานานๆระวังศพหาย)

- ในตอนแรก ฉายาของจอห์นในเว็บไซต์ Far Cry ของ Ubisoft ชื่อของเขานั้นถูกตั้งไว้ว่า The Inquisitor (ผู้ทำการสอบสวน) แต่ภายหลังกลับถูกเปลี่ยนไปเป็น The Baptist (ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนต์) แทน

- จอห์นมีรอยสักหลายแบบอยู่บนร่างกาย รวมไปถึงหนึ่งในรอยสักที่อยู่บนมือของเขาที่แสดงถึงบาปทั้งเจ็ดประการในภาษาละติน ส่วนอีกหนึ่งรอยสักที่น่าสนใจของจอห์นก็คือ รอยสักรูปนกพิราบกับพวกมาลัย ซึ่งรอยสักส่วนนี้นั้นน่าจะเป็นส่วนอ้างอิงถึงเรื่องพระคัมภีร์ของโนอาห์

- คำภาษาละตินที่สักอยู่บนมือของจอห์น รวมไปถึงชื่อของบาปบางประการของบาปทั้งเจ็ดข้อที่อยู่ด้วยกัน สามารถตีความหมายออกมาได้ว่าความเศร้าหรือความสิ้นหวัง

- ภายในเกมกับภาพโปรโมตมักจะแสดงให้เห็นว่าจอห์นนั้นมีความสามารถและความชำนาญในการใช้อุปกรณ์การสัก เป็นไปได้ว่าลวดลายรอยสักต่างๆที่อยู่บนร่างกายของโจเซฟนั้น จอห์นก็เป็นคนใส่ให้แกพี่ชายของเขาด้วย รวมไปถึงสมาชิกระดับสูงของลัทธิคนอื่นๆด้วยเช่นกัน

- จอห์นไม่เหมือนพวกพี่ชายและน้องสาวบุณธรรมของเขา เพราะเขานั้นมีความซาดิสต์ติดตัวมากที่สุด

- ดูเหมือนว่าจอห์นนั้นจะทั้งเคารพ และเกรงกลัวในตัวของโจเซฟ พี่ชายของเขาพอๆกัน

- จอห์นจะตัดเฉพาะรอยสักของบาปที่เขียนไว้บนตัวออกจากร่างกายของคนที่ต่อต้านลัทธิเท่านั้น ถ้าเป็นคนที่พี่แกชวนมาเข้าร่วมลัทธิ แล้วคนพวกนี้ยอมรับลัทธิซะตั้งแต่แรก พวกเขาก็จะไม่โดนจอห์นเจี๋ยนหน้าอกหรือลอกหนังไปเก็บสะสม จอห์นก็แค่จะให้รอยสักเกี่ยวกับบาปของคนนั้นๆแปะไว้บนร่างกายตลอดไปเท่านั้น

- ทั้ง Sharky Boshaw (ชาร์คกี้ โบวโชวต์) และ Adelaide Drubman (แอดิเลด ดรัมแมน) ต่างก็บอกกับตัวเอกว่า ที่จอห์นต้องการตัวของตัวเอกไปนั้น เพราะเขามีความรู้สึกทางเพศต่อตัวเอกด้วยเท่านั้น บทสนทนานี้จะเกิดขึ้นได้เสมอแม้ว่าผู้เล่นจะเล่นเป็นตัวเอกชายอยู่ก็ตาม

บทสนทนาของ Sharky : นี่... จอห์นน่ะบางทีแค่อาจจะอยากได้ตัวของคุณไปก็ได้นะ
แล้ว... ฉันก็เลยคิดว่าคุณน่าจะไปพูดตกลงกับเจ้าจอห์น แล้วก็มีอะไรกันให้มันจบๆ แล้วก็... เอ่อ... ทำให้เรื่องนี้มันจบๆไปเลยจะดีกว่า

บทสนทนาของ Adelaide : ที่จอห์นต้องการตัวของคูณไปเนี่ย มันเป็นเรื่องแย่จริงๆเลยนะ คุณเคยคิดดูบ้างไหมว่าเขาอาจจะตกหลุมรักในตัวของคุณก็ได้นะ
ก็อาจจะจริงอยู่ที่เขาเคยฆ่าคุณไปแล้วสักสองสามครั้ง แต่จอห์นเขาคงอยากที่จะเล่นเป็นแมวไล่จับหนูเท่านั้นล่ะ แค่อยากจะบอกน่ะ ในครั้งต่อไป ถ้าคุณพบว่าตัวเองนั้นไปหลับนอนกับจอห์นมาแล้ว บางทีมันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีพอที่จะยุติเรื่องราวทั้งหมด เผลอๆอาจจะช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ด้วยก็ได้นะ

- ในอดีต จอห์นเป็นคนที่ติดยาเสพติด อีกทั้งเขายังเสพติดเรื่องเซ็กส์มากๆด้วย

- ในหนังสือ Far Cry Absolution หนังสือนิยายฉบับทางการของ Far Cry 5 ได้กล่าวเอาไว้ว่า สมาชิกของลัทธิที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่ว่า Holly (ฮอลลี่) เธอได้เปิดเผยว่าเธอหลับนอนกับจอห์น "เป็นครั้งคราว" ในเวาลาที่จอห์นต้องการ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้จริงจังมาก แต่ความสัมพันธ์ของฮอลลี่ก็จริงจังพอที่เธอจะรอคอยจอห์นให้มาหาเธออยู่บ่อยๆ อีกทั้งฮอลลี่ยังแสดงถึงความห่วงใยที่มีต่อจอห์นอย่างเห็นได้ชัด

- จากคำพูดของชาร์คกี้ เขาระบุว่าจอห์นนั้นเป็นพวกที่หลงไหลและชอบหมกมุ่นอยู่กับอวัยวะเพศของตนเองมาก ชาร์คกี้ยังกล่าวอีกว่า เขารู้ด้วยว่าจอห์นนั้นเคยช่วยตัวเองที่หน้ากระจกและฟินเพราะดูสีหน้าของตนเองในตอนนั้นมาแล้ว

- ในหนังสือ The Book of Joseph ข้อมูลของจอห์นถูกระบุเอาไว้ว่าเขาเป็นบุคคลที่มีปัญหาที่สามารถทำให้คนสารภาพความลับสกปรกของตัวเองให้กับเขาได้ โจเซฟผู้ที่เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้อ้างว่า "ประธานาธิบดีเองก็จะต้องมอบรหัสนิวเคลียร์ให้กับจอห์นโดยไม่เขาลังเลเลยล่ะ บางทีนี่อาจจะเป็นจุดจบของมนุษยชาติเลยก็ได้" แม้ว่าคำพูดนี้ของโจเซฟอาจจะเป็นแค่คำพังเพย แต่ก็อาจชี้ให้เห็นได้ว่า ในตอนจบของเกมที่เกิดการระเบิดของนิวเคลียร์เกิดขึ้น บางทีมันอาจจะถูกจุดเปิดการทำงานโดยตัวแทนของลัทธิเองก็ได้

- หลังจากตัวเกมได้ทำการอัปเดตเวอร์ชั่น 1.05 แล้ว ชุดเครื่องแต่งกายแบบพิเศษของจอห์น พร้อมด้วยชุดของ Sheriff Whitehorse (นายอำเภอไวท์ฮอร์ส) ก็มีปลดล็อกมาให้ผู้เล่นได้สวมใส่ให้แก่ตัวเอกกันได้แล้ว

- ในเขต Holland Valley จะมี Outpost หนึ่งที่ชื่อว่า Seed Ranch ซึ่งค่ายนี้นั้นเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของจอห์น และยังเป็นบ้านพักของเขาอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ในเควสที่นิคให้ไปหา Carmina (เครื่องบิน) ของนิคที่ถูกพวกลัทธิยึดไปให้กลับคืนมานั้น ทำไมผู้เล่นถึงต้องมาตามในที่ Seed Ranch เพราะพวกลัทธิเอาเครื่องบินมาถวายให้พี่จอห์นไปแล้วนั่นเองค่ะ หรือในเควสไล่ล่าตัวของจอห์นเอง เหตุผลที่ตัวเอกถึงต้องมาตามไล่ล่าถึงที่ Seed Ranch แห่งนี้ เพราะพี่จอห์นแกมาเอาเครื่องบินของตัวเองในบ้านพักนั่นเอง (ถึงแม้ว่าตัวเอกจะทำการยึดค่ายไปแล้วก็ตามอ่ะนะ)

- เข็มขัดกับตุ้มหูที่จอห์นสวมใส่ เป็นของยี่ห้อเดียวกัน

ความคิดเห็น

Recommend