FALLOUT 4 : เทคนิคการจัดการกับศัตรูที่ใส่ชุด Power Armor


เห็นมีผู้เล่นหลายท่านที่มีปัญหากับการจัดการพวกที่ใส่ชุด Power Armor เพราะว่าพวกนี้เกราะหนาเกินไปจนยิงโจมตีไม่ค่อยจะเข้าเลย แต่จริงๆแล้วพวกนี้นั้นมีจุดอ่อนในการจัดการอยู่นะคะ คราวนี้เราเลยจะมาบอกเทคนิคในการใช้จัดการกับพวกที่ใส่ชุด Power Armor ให้หมดเปลือกเลยค่ะ

อันดับแรก พวกที่ใส่ชุด Power Armor นั้นค่อนข้างจะถึกเพราะตัวชุดเอง พลังป้องกันทางด้านการโจมตีทางกายภาพนี่จะขึ้นหลักร้อยเลย ดีไม่ดีถ้าพวกเก่งๆตามเนื้อเรื่องนี่จะมีพลังป้อมกันหลักพันด้วย มันเลยเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้เล่นที่ไม่ทราบทริคโจมตีใส่พวกนี้ได้ยากค่ะ

แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรที่มันสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ชุด Power Armor ใน Fallout 4 ก็เหมือนดาบสองคมที่มันก็มีจุดอ่อนในตัวของมันเองอยู่ วึ่งจุดอ่อนที่ว่านั้นก็คือ Fusion Core ที่เป็นแหล่งพลังงานของชุดนั่นเองค่ะ

Fusion Core ถ้าจะให้เปรียบง่ายๆนั้นก็จะเป็นเหมือนกับก้อนแบตเตอร์รี่ขนาดเล็กที่ทำให้ชุด Power Armor นั้นทำงานได้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่าก้อนแบตเตอร์รี่ที่เป็นเหมือนแหล่งพลังงานนี่ถุกทำลายขึ้นมา?

แค่คิดก็สนุกแล้วใช่ไหมคะ และนี่แหละค่ะคือจุดอ่อนของพวกที่ใส่ชุด Power Armor ในภาคนี้ เพราะถ้าผู้เล่นโจมตีโดยตรงใส่ Fusion Core ขึ้นมาจนเสียหายและใช้งานต่อไม่ได้ เจ้า Fusion Core เจ้ากรรมนี่ก็แปลงร่างจะกลายเป็น Mini Nuke ที่ระเบิดค่าชุดของผู้ที่สวมใส่อยู่ในทันที


และเมื่อ Fusion Core ระเบิดแล้วก็จะเกิดผลขึ้นมา 2 อย่างค่ะ 

- ส่งผลให้เจ้าของชุดดวงซวยที่สวมใส่อยู่โดนระเบิดเป็นดาเมจรุนแรงในทันที อีกทั้งระเบิดนั้นยังเป็นวงกว้างจนอาจจะทำให้ศัตรูที่อยู่บริเวณโดยรอบได้รับผลของระเบิดไปด้วย


- เมื่อ Fusion Core เกิดการเด้งออกจากชุดและระเบิดขึ้นมา แต่ผู้ที่สวมใส่ชุด Power Armor นั้นอยู่รอดชีวิต เจ้าของชุดก็จะถอดชุดออกเพราะชุด Power Armor ของเขานั้นไม่สามารถใช้งานต่อได้อีกต่อไปค่ะ คราวนี้ก็จะออกมาจากชุดให้ผู้เล่นได้จัดการรุมสกัมกันได้ง่ายๆเลย อีกทั้งถ้าเป็นในกรณีนี้ ชุด Power Armor ที่เป้าหมายถอดออกมา ผู้เล่นก็จะสามารถเข้าไปสวมใส่และยึดเป็นเจ้าของได้ทันที แต่ชุดที่เป็นแบบนี้จะติดสถานะเป็นของที่ขโมยมา (ตัวชุด Power armor frame ขึ้นสีแดง แต่พวกตัวชิ้นส่วนแค่เก็บเข้าช่องเก็บของก็ไม่ติดสถานะแล้ว) ใส่แล้วพวกคู่หูที่เป็นคนนิสัยดีๆเขาจะไม่ชอบ ดังนั้นถ้าผู้เล่นจะยึดชุด Power Armor แบบนี้ไปก็ตรวจสอบความคุ้มค่าซะก่อนนะคะ


ส่วนวิธีการโจมตีใส่ Fusion Core ของชุด Power Armor นั้นจะทำได้ 2 วิธีค่ะ

- โจมตีโดยตรงใส่ Fusion Core ได้เลย แต่การที่จะโจมตีใส่จุดนี้ในขนาดที่เป้าหมายสวมใส่ชุด Power Armor ิอยู่จะค่อนข้างทำได้ยากค่ะ เพราะถ้าหากผู้เล่นลองใช้ VATS ส่องดูชิ้นส่วนแต่ละจุดดีๆ จะเห็นว่าค่าความแม่นยำที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นโจมตีเข้า Fusion Core ได้เลยจะมีค่าความแม่นยำอยู่ที่ 0 หรือโจมตีใส่ไม่ได้ตลอด

วิธีแก้ก็คือ ผู้เล่นจะต้องไปโจมตีที่ทิศด้านหลังของเป้าหมายที่สวมชุด Power Armor โดยตรง ค่าความแม่นยำก็จะกลับมาค่ะ แต่จะสูงหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับ Perk ที่ผู้เล่นอัพและองศาในการยืนโจมตีในตอนนั้นค่ะ


- ให้อัพ Perk Penetrator ในสาย Perception มาให้พร้อม ผลของ Perk นี้จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีความสามารถตามนี้ค่ะ

----- Penetrator : สามารถใช้โหมด V.A.T.S. ยิงศัตรูที่หลบซ่อนอยู่หลังกำบังหรือกำแพงต่างๆได้ สกิลนี้มี 2 ระดับ

ระดับที่ 1 : ทำให้สามารถใช้โหมด V.A.T.S. ยิงศัตรูที่หลบอยู่หลังกำบังได้ แต่ความแม่นยำจะลดน้อยลง

ระดับที่ 2 : ทำให้สามารถใช้โหมด V.A.T.S. ยิงศัตรูที่หลบอยู่หลังกำบังได้ และทำให้ความแม่นยำของปืนไม่ลดลงด้วย (ต้องการเลเวล 28 ในการอัพ และต้องการค่า PER 9 แต้มในการอัพ)

ใช่แล้วค่ะ ผลของ Perk นี้จะทำให้ผู้เล่นนั้นสามารถที่จะใช้ VATS ยิงทะลุกำแพงไปโจมตีใส่ศัตรูได้โดยตรงเลย แต่สิ่งที่ Perk ไม่ได้บอกมันจะมีมากกว่านั้นอีกค่ะ คือผลของ Perk นี่จะทำให้ผู้เล่นสามารถยิงทะลุเครื่องป้องกันของศัตรูโดยที่ไม่สนค่าป้องกันได้ด้วย ดังนั้นผู้เล่นเลยใช้ Perk นี้มาดัดแปลงและยิงทะลุพวกที่ใส่ชุด Power Armor ได้โดยตรงในโหมด VATS เลยค่ะ คราวนี้ถึงท่านจะยืนในองศาไหนมมุมไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโจมตีไม่เข้า Fusion Core แล้ว เพราะยังไงก็โดนชัวร์ๆ แต่จะมีความแม่นมากรึน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่า Perk ที่อัพมาแล้วเช่นเคยค่ะ

แต่การใช้วิธีนี้ค่อนข้างใช้เวลานานกว่าผู้เล่นจะสามารถทำได้ เพราะจะต้องมีค่า PER สายหลักที่อัพมาแล้วมากกว่า 9 แต้ม และต้องมีเลเวลไม่ต่ำกว่า 28 ถึงจะอัพ Perk Penetrator ได้ค่ะ



ส่วนอันนี้แถมค่ะ เป็น Perk อื่นๆที่ช่วยสนับสนุนให้การโจมตีด้วย Perk Penetrator มีประสิทธิภาพที่ดีได้มากขึ้น ท่านควรอัพเพิ่มเติมเพื่อที่จะเห็นผลได้ชัดขึ้นเน้อ

----- Concentrated Fire : เมื่อโจมตีเป้าหมายในโหมด V.A.T.S. ซ้ำตรงส่วนเดิม จะทำให้ค่าความแม่นยำของการโจมตีนั้นเพิ่มมากขึ้น สกิลนี้มี 3 ระดับ

ระดับที่ 1 : เมื่อโจมตีเป้าหมายในโหมด V.A.T.S. ซ้ำตรงส่วนเดิม จะทำให้ค่าความแม่นยำของการโจมตีนั้นเพิ่มมากขึ้น 10%

ระดับที่ 2 : เมื่อโจมตีเป้าหมายในโหมด V.A.T.S. ซ้ำตรงส่วนเดิม จะทำให้ค่าความแม่นยำของการโจมตีนั้นเพิ่มมากขึ้น 15% (ต้องการเลเวล 26 ในการอัพ และต้องการค่า PER 10 แต้มในการอัพ)

ระดับที่ 3 : เมื่อโจมตีเป้าหมายในโหมด V.A.T.S. ซ้ำตรงส่วนเดิม จะทำให้ค่าความแม่นยำของการโจมตีนั้นเพิ่มมากขึ้น 20% และช่วยเพิ่มความเสียหายให้เพิ่มขึ้นอีก 20% ด้วย (ต้องการเลเวล 50 ในการอัพ และต้องการค่า PER 10 แต้มในการอัพ)

และในกรณีที่ท่านใช้อาวุธเป็นปืนประเภท Non-automatic rifles ก็มี Perk นี้ที่สามารถช่วยได้อีกค่ะ

----- Rifleman : ช่วยเพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น สกิลนี้มี 5 ระดับ

ระดับที่ 1 : เพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น 20%

ระดับที่ 2 : เพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น 40% และทำให้ยิงทะลุเกราะของศัตรูโดยที่ไม่สนค่าพลังป้องกันของศัตรูได้อีก 15% (ต้องการเลเวล 9 ในการอัพ และต้องการค่า PER 2 แต้มในการอัพ)

ระดับที่ 3 : เพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น 60% และทำให้ยิงทะลุเกราะของศัตรูโดยที่ไม่สนค่าพลังป้องกันของศัตรูได้อีก 20% (ต้องการเลเวล 18 ในการอัพ และต้องการค่า PER 2 แต้มในการอัพ)

ระดับที่ 4 : เพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น 80% และทำให้ยิงทะลุเกราะของศัตรูโดยที่ไม่สนค่าพลังป้องกันของศัตรูได้อีก 25% และเพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูแขนขาหักด้วย (ต้องการเลเวล 31 ในการอัพ และต้องการค่า PER 2 แต้มในการอัพ)

ระดับที่ 5 : เพิ่มพลังโจมตีของปืนประเภท Non-automatic rifles ให้รุนแรงมากขึ้น 100% และทำให้ยิงทะลุเกราะของศัตรูโดยที่ไม่สนค่าพลังป้องกันของศัตรูได้อีก 30% และเพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูแขนขาหักมากขึ้นด้วย (ต้องการเลเวล 46 ในการอัพ และต้องการค่า PER 2 แต้มในการอัพ)


ความคิดเห็น

Recommend