FALLOUT 4 : บทสรุปเควส Blind Betrayal


บทสรุปเควส Blind Betrayal (ฉบับปรับปรุงสมบูรณ์)

มีสปอย : เนื้อเรื่องและเนื้อหาของเควส

หลังจากที่ผู้เล่นทำเควส Liberty Reprimed ที่เป็นเควสหาระเบิดให้แก่พี่ Liberty Prime จบเรียบร้อยแล้ว ตัวเอกจะได้รับคำสั่งมาว่าให้ไปเข้าพบกับ Elder Maxson (เอเดอร์ แม็กซัน) โดยด่วนที่สุด หลังจากที่เข้าห้องประชุมไปเพื่อพบกับแม็กซันแล้ว อีอึ๋มจะเดินหรี่เข้ามาสอบถามกับตัวเอกในทันทีว่าตัวเอกนั้นได้รู้ในเรื่องนั้นและกำลังปิดบังความจริงอะไรบางอย่างไม่ให้ใครรู้รึเปล่า?


เมื่อตัวเอกได้เจอคำถามแนวเค้นสอบสวนเข้าไปก็ถึงกับเง็งจนไปไม่ถูก ตัวเอกเลยได้แต่ตอบไปว่า เขาไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นความลับที่จะปิดบังใส่แม็กซันทั้งนั้นนี่นา แม็กซันเลยตอบกลับมาว่า หลังจากที่ตัวเอกได้ให้เทปที่ไปก๊อปข้อมูลมาจากคอมพิวเตอร์เมนเฟรมของฝ่าย Institute มาให้แก่ Proctor Ingram (พรอคเตอร์ อินแกรม) เธอจึงได้นำเทปที่เต็มไปด้วยข้อมมูลลับของฝ่าย Institute อันนั้นไปให้แก่ตาแว่น Proctor Quinlan (พรอคเตอร์ ควินแลน) เพื่อให้เขาถอดรหัสให้ข้อมูลนั้นออกมาเป็นภาษาคนที่สามารถอ่านและเข้าใจได้อีกทีหนึ่ง

แต่เมื่อถอดรหัสข้อมูลลับมาได้ เขากลับได้พบข้อมูลที่น่าประหลาดใจจนไม่คาดคิด ซึ่งนั่นก็คือการที่เขาได้ไปค้นเจอข้อมูลของซินท์รุ่นที่ 3 บุคคลหนึ่งที่ชื่อว่า "M7-97" ซึ่งซินท์คนนี้นั้นเขาได้หลบหนีหรือหายสาบสูญไปจากโรงงานผลิตซินท์ที่อยู่ภายใน Institute แต่ทว่าซินท์คนนี้กลับมีหน้าตาที่เหมือนกับ Paladin Danse (พาราดิน แดนท์) แบบไม่มีผิดเพี้ยนเลย


หลังจากที่ได้พบเจอกับข้อมูล ควินแลนก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ว่าแดนท์ที่จงรักภักดีกับฝ่าย BOS ขนาดหนักนั้นจะเป็นซินท์ที่เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของฝ่าย BOS ได้ยังไง

โชคดีที่ข้อมูลลับอันนั้นมีการระบุข้อมูลส่วนตัวของซินท์คนนั้นทุกอย่าง ทั้งชื่อโค๊ดรหัส หรือแม้กระทั่งรหัส DNA ควินแลนจึงได้ทำการเอาข้อมูลรหัส DNA ของซินท์คนนั้นส่งต่อไปให้ยัง Senior Scribe Neriah ซึ่งเจ๊แกนั้นเป็นเสมียนฝ่ายวิจัยทางชีววิทยา ควินแลนได้ส่งต่องานให้แก่เนริยาห์เพื่อเอาไปตรวจ ว่า DNA "พิเศษ" อันนี้ตรงกับ DNA ของทหารคนไหนในค่าย BOS บ้างหรือไม่ โดนที่ควินเลนนั้นไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรแก่เนริยาห์เลยว่า DNA พิเศษอันนี้นั้นเป็นของใครและมาจากไหน

ปรากฏว่าหวยลง เพราะ DNA ของซินท์ที่ชื่อว่า "M7-97" นั้นดันไปตรงกับ DNA ของแดนท์เข้าพอดิบพอดี เพียงแค่นี้ก็พอจะยืนยันได้แล้วว่า แดนท์ก็คือซินท์... เขาไม่ใช่มนุษย์

ควินแลนที่ได้รับรู้ความจริงอย่างชัดเจนจึงรายงานเรื่องนี้ให้แก่แม็กซันได้ฟัง
และเมื่อแม็กซันได้รับรู้ความจริง เขาจึงได้ออกคำสั่งให้จับกุมตัวแดนท์ไปคุมขังในทันที แต่ทว่าแดนท์กับแหกคุกออกมาได้ และเขาก็ได้หนีหายสาบสูญไปและไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย จนทำให้ไม่สามารถไล่ตามหรือแกะรอยอะไรได้เลย ว่าแดนท์นั้นหลบหนีไปอยู่ที่ไหน

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แม็กซันปักใจเชื่อว่าตัวเอกนั้นอาจจะมีส่วนร่วมรู้เห็นในเรื่องที่แดนท์นั้นเป็นซินท์ก็ได้ ตัวเอกที่ไม่รู้เรื่องอะไรนั้นก็ได้แต่บอกไปว่าเขาไม่รู้เรื่องที่แดนท์นั้นเป็นซินท์จริงๆ สุดท้ายแม็กซันจึงยอมเชื่อว่าตัวเอกนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทรยศของแดนท์ แต่ทว่าแม็กซันกลับออกคำสั่งที่น่ากลัวที่สุดให้แก่ตัวเอก นั่นคือการที่เขาต้องการให้ตัวเอกนั้นไปตามหาแดนท์และ "ทำลาย" เจ้าเครื่องจักรน่ารังเกียจนั่นทิ้งซะ

แน่นอนว่าตัวเอกตอบปฎิเสธไม่รับทำภารกิจนี้ในทันที เพราะตัวเอกคิดว่าแดนท์สมควรที่จะได้รับโอกาสในการแก้ตัวมากกว่าที่จะมาตัดสินให้ไปฆ่าเขาโดยที่ไม่ยอมรับฟังคำพูดในอีกด้านหนึ่งอะไรแบบนี้


แต่คราวนี้แม็กซันไม่ยอมรับฟัง เขาพูดเสียงแข็งใส่ตัวเอกในทันทีว่า ตัวเอกจะต้องทำภารกิจนี้ ไอ้การที่เขาเรียกให้ตัวเอกมายืนคุยตรงนี้นั้นไม่ใช่การมาปรึกษาหารือ แต่ทว่าเป็นการให้ "คำสั่ง" แบบเด็ดขาด

สักพัก แม็กซันก็ปรับลดอารมณ์ลง เขาอธิบายให้ตัวเอกได้เข้าใจว่า แม็กซันนั้นก็เข้าใจดีว่าแดนท์นั้นเป็นทั้งครูฝึกวิชาและเป็นทั้งพี่เลี้ยงของตัวเอก และไอ้การที่จะต้องไปฆ่าคนที่เคยรู้จักกันมานานนั้นมันไม่เรื่องง่ายที่จะทำกันได้ในแบบทันที แต่ทว่าเพื่อความเข้มแข็งในกองทัพของเขา แม้ภารกิจจะยากเพียงใดหรือขัดใจแค่ไหนเขาก็ปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆไม่ได้ คนผิดจะต้องได้รับการลงโทษแม้ว่าจะเป็นคนของเขาเอง และเมื่อพูดอธิบายจบ แม็กซันก็ตัดบทสนทนาด้วยการบอกให้ตัวเอกไปเข้าพบกับควินแลนเดี๋ยวนี้ซะ เพราะบางทีเขาอาจจะมีข้อมูลอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับตัวของแดนท์มาให้แก่ตัวเอกก็ได้ เมื่อแม็กซันพูดจบ เขาก็หันหน้าหนีไปจากตัวเอกเป็นเชิงไม่อยากจะคุยต่อในทันที

เมื่อตัวเอกเข้าพบกับควินแลน ตาแว่นก็ได้บอกกับตัวเอกไปว่า เขาเสียใจด้วยจริงๆนะ ในเรื่องความลับของแดนท์ แต่ทว่าตัวเอกกลับตอบปัดไปว่า สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือที่อยู่ที่แดนท์หลบหนีไปมากกว่า

ควินแลนจึงบอกกลับตัวเอกไปว่า การตามหาตัวของแดนท์นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแดนท์มาอยู่เป็นหน่วยลาดตระเวนที่เขต The Commonwealth ก็หลายเดือน แดนท์จึงมีข้อมูลของสถานที่มากพอและเขาอาจจะไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนก็ได้ๆทุกที่ คุยกันได้ไม่นาน Scribe Haylen (เฮเลน) ที่เป็นทั้งลูกน้องที่ขึ้นตรงกับแดนท์ และเป็นทั้งเพื่อนสนิทของแดนท์ก็ได้ออกมาโวยวายใส่ควินแลนว่า นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันที่แดนท์เป็นซินท์ ด้วยความที่แดนท์อาจจะโดนถูกกล่าวหา อารมณ์ของเฮเลนในตอนนี้จึงเดือดและโวยวายใส่ตัวเอกด้วยว่า เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าตัวเอกจะเห็นแก่ตัวรับภารกิจเอาหน้าทำได้แม้กระทั่งการจะลงมือฆ่าแดนท์ที่เคยเป็นครูฝึกของตัวเอกทิ้ง ควินแลนที่ได้ยินเฮเลนพูดจาลามปามใส่ตัวเอกจึงได้ต่อว่าเฮเลนกลับไปในทันที ว่าถ้าเธอมีข้อมูลอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับแดนท์ก็ให้รายงานมา แต่ถ้าไม่มีก็ช่วยเงียบปากแล้วกลับไปประจำการที่สถานีตำรวจ Cambridge police station ซะเถอะ


เฮเลนจึงได้สงบสติอารมณ์และพูดขอโทษกับตัวเอก จากนั้นเธอจึงบอกว่าเธอมีข้อมูลใหม่มารายงานให้แก่ตัวเอกแน่นอน และขอเชิญตัวเอกให้ไปดูข้อมูลที่ว่านั่นในคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใต้ท้องของเรือเหาะ The Prydwen

เมื่อตัวเอกได้เห็นท่าทีของเฮเลนเข้าก็แปลกใจ เขาจึงถามไปว่าทำไมเฮเลนถึงเปลี่ยนใจมารับภารกิจตามล่าแดนท์ง่ายจัง เฮเลนจึงตอบไปแบบไม่เต็มใจว่า เธอก็แค่ "ทำงาน" ในหน้าที่ของเธอก็เท่านั้นเอง เมื่อพูดจบ เฮเลนก็ได้เดินนำตัวเอกไปยังใต้ท้องเรือเหาะทันที

เมื่อเดินมาถึงยังใต้ท้องเรือ ข้อมูลที่เฮเลนบอกว่าอยู่ในคอมพิวเตอร์นั้นมันเป็นแค่เรื่องที่กุขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอกให้ตามเธอมาฟังคำร้องขอของเธอ เฮเลนได้เปลี่ยนเอาอารมณ์เดือดเมื่อสักครู่นั้นทิ้งไปจนหมด เธอได้แต่ถามกับตัวเอกไปว่า ตัวเอกตั้งใจจะไปฆ่าแดนท์ตามคำสั่งจริงๆงั้นเหรอ?

แน่นอนว่าตัวเอกตอบไปว่าไม่... ซึ่งเฮเลนก็ได้บอกออกมาว่าเธอรู้ดีว่าตัวเอกนั้นเป็นคนจิตใจดี คงไม่รับทำภารกิจนี้แบบตรงๆแน่นอน อีกทั้งเธอยังได้อธิบายด้วยว่า เธอกับแดนท์นั้นรู้จักันมานานแล้ว อีกทั้งแดนท์เองก็เป็นครูฝึกของเฮเลนเช่นเดียวกับตัวเอก และในตอนที่เฮเลนทำผิดพลาดไป แดนท์ก็คอยบอกกับเธอเสมอว่าขอให้มุ่งหน้าต่อไปและทำในสิ่งที่ดีกว่า อีกทั้งเฮเลนยังบอกด้วยว่าถึงแม้แดนท์จะเป็นอะไรก็ตามแต่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรรึเป็นคน แดนท์ก็ยังคงเป็นแดนท์คนเดิม และได้บอกกับตัวเอกว่าขอให้ๆโอกาสแก่เขาหน่อย ถ้าตัวเอกยังคงเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวแดนท์ ของให้ตัวเอกนั้นไว้ชีวิตและปล่อยเขาไป แต่ถ้าเมื่อใดที่แดนท์กลายเป็นคนละคนกับคนเดิม ก็ขอให้ตัวเอกจัดการกับเขาตามสมควรได้เลย


ในตอนนี้จิตใจของตัวเอกสับสนไปหมด เขาทำได้แค่รับปากกับเฮเลนไว้ว่าจะเก็บข้อเสนอของเธอไปคิด เฮเลนจึงได้ยอมบอกที่ซ่อนตัวในตอนนี้ของแดนท์ให้แก่ตัวเอก เธอได้บอกว่า ในช่วงแรกๆที่ทีมลาดตระเวรของแดนท์นั้นเพิ่งเดินทางมาถึงยัง The Commonwealth แดนท์ได้นัดแนะวางแผนกับลูกทีมทุกคนว่าถ้าหากเกิดเหตุด่วนหรือฉุกเฉินอะไรขึ้นจนทำทีมกระจัดกระจายกัน ก็ขอให้ไปรวมตัวหรือพบกันได้ที่ค่ายทหารเก่าที่ชื่อว่า Listening Post Bravo

เมื่อตัวเอกได้ข้อมูลที่อยู่ที่ชัดเจนของแดนท์ เขาจึงรีบเดินทางไปยังที่ Listening Post Bravo ในทันที เมื่อเดินทางไปถึงยังค่ายทหารเก่าแล้ว ให้ผู้เล่นระวังการโจมตีของป้อมปืน Turrets 2 อันที่อยู่หน้าป้อมให้ดี เมื่อถล่มป้อมปืนได้แล้วให้เข้าไปสำรวจที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดอยู่ที่ผนัง ให้กดคลิกๆเข้าไปเพื่อเปิดให้ระบบไฟฟ้าของลิฟต์ทำงาน (ถ้ายังไม่ได้รับเควส Blind Betrayal แล้วมาสำรวจที่เครื่องคอมพิวเตอร์อันนี้ก่อนทำเควส จะพบว่ามันล็อกด้วนรหัสระดับ Master อยู่) หลังจากที่ลงลิฟต์มาแล้วให้ระวังศัตรูที่เป็นป้อมปืนกับหุ่นยนต์ Protectron ด้วย (ระวังโจมตีโดนถังระเบิดที่อยู่ใกล้ๆนะ) เมื่อกำจัดศัตรูได้แล้วให้เดินเข้าไปด้านในป้อม ก็จะพบกับแดนท์ที่กำลังรอคอยคนที่จะมาตามล่าตัวของเขาอยู่ที่ห้องด้านใน

เมื่อแดนท์ได้เห็นตัวเอก เขาจะเดินเข้ามาหาตัวเอกเอง และแดนท์ก็จะเป็นผู้เริ่มบทสนทนาก่อนว่า เขาไม่แปลกใจเลยที่แม็กซันส่งตัวเอกมา เพราะอีอึ๋มจะไม่มาลงมือทำงานสกปรกแบบนี้ด้วยตัวเองหรอก ทางด้านตัวเอกแน่นอนว่าเขาเองก็สับสน จึงได้ถามแดนท์ไปว่าความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?


แดนท์ได้แต่บอกว่า เขาเองก็สับสนไม่แพ้ตัวเอกเหมือนกัน เพราะเขาไม่รู้เลยและไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นซินท์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาเกลียดที่สุด... และถ้าไม่ใช่เพราะเฮเลน ตัวเอกกับแดนท์ก็คงจะไม่ได้มายืนคุยกันแบบนี้ด้วย แต่ทว่าแดนท์กลับไม่ได้พูดอะไรมาก เขาตัดบทไปโดยที่ถามตัวเอกว่า แม็กซันได้ให้ภารกิจให้มาทำลายตัวของเขาทิ้งใช่ไหม?

ตัวเอกตอบว่าใช่ แต่ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ เขาจึงได้แต่หวังว่ามันจะมีทางออกอื่นที่ไม่ใช่การมอบจุดจบให้แก่แดนท์เพียงอย่างเดียว แดนท์ได้ยินก็บอกว่าเขารู้มาตลอดว่าตัวเอกคิดยังไงกับเขา เรา 2 คนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกัน และนี่ก็ไม่ใช่งานง่ายๆที่ตัวเอกจะสามารถทำได้ ใจจริงเขาอยากให้แม็กซันส่งคนอื่นมาฆ่าเขามากกว่า แต่พุดไปก็เท่านั้น เพราะความจริงยังไงก็ไม่เปลี่ยนแปลง แดนท์ยังคงเป็นซินท์และจะต้องถูกทำลายทิ้ง เพราะซินท์คือของอันตรายที่ไม่ควรมีอยู่ มันจะต้องถูกทำลายและถูกควบคุม เมื่อพูดจบ แดนท์ก็ได้ขอให้ตัวเอกเลือกที่จะทำลายเขาอีกครั้ง...


ฉากจบแบบ A : The Last Danse

Argee To Execute Danse - ตกลงที่จะฆ่าแดนท์ : เมื่อตอบแล้วแน่นอนว่าตัวเอกจะต้องฆ่าแดนท์ เขาจะนั่งลงและยอมรับความตายโดยที่ไม่ขัดขืนใดๆ ให้ผู้เล่นฆ่าแดนท์ด้วยวิธีไหนก็ได้ และเมื่อแดนท์ตายแล้ว ในศพของเขาก็จะพบไอเท็มที่ชื่อ Synth component ในร่างกายของแดนท์ด้วย และตรงนี้ตัวเอกจะต้องเก็บ Danse's holotags (ป้ายชื่อทางการทหารของแดนท์) ไปยืนยันกับแม็กซันที่เรือเหาะ The Prydwen ด้วย

จุดเปลี่ยนของการกระทำนี้คือ แม็กซันจะไม่มาที่ค่ายทหารเก่านี่ ผู้เล่นจะต้องไปรายงานกับแม็กซันที่เรือเหาะเอง จบภารกิจแบบนี้แดนท์จะตาย ผู้เล่นจะเสียแดนท์ไปและจะทำให้ไม่ได้สกิลส่วนตัวของแดนท์ อีกทั้งเฮเลนก็จะโกรธที่ผู้เล่นทำการฆ่าแดนท์ด้วย



ฉากจบแบบ B : The Suicide of Danse

ฉากจบแบบนี้คือไม่เลือกตัวไหนเลยในคำตอบที่ขึ้นมาช่วงที่ให้เลือกว่าจะทำการสังหารแดนท์หรือไม่ ให้ตัวเอกเดินออกจากวงสนทนาและขึ้นลิฟต์กลับไปเลยก็จะพบว่า เควสได้ขึ้นเตือนว่าให้กลับไปเก็บ Danse's holotags มาจากแดนท์ และเมื่อกลับลงลิฟต์ไปอีกทีก็จะพบว่าแดนท์ได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดที่ต่างจากฉากจบแบบ The Last Danse คือ ฉากจบแบบนี้แดนท์จะทิ้งจดหมาย(เทป)ลาตายเอาไว้ด้วย ซึ่งเทปจะวางอยู่ตรงแผงควบคุมที่เขานั่งอยู่ตอนแรกในห้องด้านในสุด เมื่อเปิดฟังก็จะพบว่ามีเนื้อหาดังนี้

"ในขณะที่เวลากำลังผ่านไปเรื่อยๆ ฉันได้แต่เอาแต่จ้องมองไปที่กำแพงของสถานที่นี้ ที่ๆถูกทอดทิ้งเอาไว้... ฉันยังคงพยายามที่จะต้องยอมรับกับความเป็นจริงให้ได้ ว่าฉันเป็นตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นมา... ตัวตนที่เป็นพาราดิน แดนท์ ของฉันนั้นช่างว่างเปล่ายิ่งนัก ไม่มีอะไรเลย มีแค่เพียงความทรงจำในตอนนี้เท่านั้นที่เป็นของจริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรัก... ทุกอย่างที่ฉันเคยเชื่อถือ มันได้หายไปอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว...
ฉันคิดว่าฉันคงใช้เวลานานเกินไปแล้ว ที่จะมานั่งสงสัยว่า ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับฉัน แต่ความจริงก็คือ... มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ฉันเป็นซินท์... นั่นก็หมายความว่าฉันเป็นสิ่งแปลกปลอมของธรรมชาติ เป็นผลมาจากการบิดเบือนทางวิทยาศาสตร์ และเป็นตัวอย่างของมนุษยชาติผิดเพี้ยนไป... เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ ฉันต้องตาย... ไม่ได้เป็นเพราะว่า ฉันเป็นคนขี้ขลาด หรือฉันเสียใจในสิ่งที่ฉันเป็นหรอกนะ
แต่นี่เป็นสิ่งที่ 'มนุษย์' ควรจะทำ ฉันคือแดนท์... อดีต Paladin ของกลุ่ม Brotherhood of Steel จบการบันทึก"


ฉากจบแบบ C : One Last Danse

Refuse to execute Danse : ปฎิเสธที่จะทำลายแดนท์


ตัวเอกเลือกที่ตอบปฎิเสธที่จะทำลายแดนท์ไปแบบไม่ลังเล ผลของคำตอบจะทำให้แดนท์ตกใจและไม่คิดว่าตัวเอกจะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะช่วยเหลือเขาเอาไว้ แดนท์จึงอยากรู้เหตุผลว่าทำไมตัวเอกถึงยอมทำถึงขนาดนี้เพียงเพื่อช่วยเขาเอาไว้ด้วย?

ตัวเอกจึงตอบออกไปว่า เขาได้สูญเสียครอบครัวที่เขารักไปหมดแล้ว เขาไม่อยากเสียเพื่อนของเขาไปอีกหรอก

แดนท์ตกใจอีกรอบ

ความสับสนในตัวตนของตัวเองทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถ้าเขาตายไปในตอนนี้ ความตายของเขามันจะไปมันจะส่งผลกระทบกับคนที่เป็นห่วงแดนท์ถึงขนาดไหน คนที่เป็นเหมือนกับตัวเอกและเฮเลน ในตอนนี้แดนท์จึงได้เข้าใจสักทีว่าความตายมันไม่ใช่ทางออกของปัญหา และเขาก็ไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอีกแล้ว

และเมื่อตกลงปรับความเข้าใจกันได้แล้ว แดนท์จะให้ป้ายชื่อของตนเองให้แก่ตัวเอกไป เพื่อเอาเจ้าสิ่งนี้ไปเป็นหลักฐานยืนยันปลอมๆกับแม็กซันว่า ตัวเอกได้จัดการฆ่าแดนท์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นแดนท์ก็จะอธิบายจุดหมายของเขาต่อไปว่า มันคงไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ที่ The Commonwealth ต่อไป เพราะถ้าความแตกแม็กซันได้รู้ว่าแดนท์ยังไม่ตาย เขาก็คงจะโดนตามล่าแบบไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน และมันคงจะดีกว่าถ้าแดนท์จะเดินทางออกจากเขต The Commonwealth ไปและไม่กลับมาอีก (ไม่นะ)

ตัวเอกจึงได้เตรียมเดินทางออกจากป้อมทหารเก่านี่ แล้วจะไปรายงานผลกับแม็กซัน แต่ทว่าเมื่อก้าวออกมาหน้าป้อมก็พบว่า มีเฮลิค๊อปเตอร์ของ BOS จอดอยู่ และแม็กซันตัวจริงเสียงจริงก็ได้ยืนดักแดนท์อยู่หน้าป้อมเสียแล้ว แม็กซันได้ต่อว่าข้ามหน้าแดนท์ไปใส่ตัวเอกทันทีว่ากล้าดียังไงถึงทรยศ BOS?
แดนท์ชิงตอบไปก่อนว่ามันไม่ใช่ความผิดของตัวเอก มันความผิดของตัวเขาคนเดียว แต่ไม่ทันไรแม็กซันก็ชี้หน้าด่าแดนท์ทันทีว่าให้หุบปากไปซะ เขาจะคุยกับแดนท์ทีหลัง และโยนคำถามเดิมใส่ตัวเอกอีกรอบว่าทำไมไอ้เจ้า "สิ่งนี้" ถึงไม่โดนทำลาย? ทำไมมันถึงยังอยู่?


ตัวเอกสวนกลับไปแบบไม่เกรงกลัวเลยว่า ที่เขาไม่ทำตามคำสั่ง เพราะคำสั่งของแม็กซันมันปัญญาอ่อนไงล่ะ แม็กซันได้ฟังก็ขึ้นทันที เลือดขึ้นหน้าเป็นสีกุ้งต้ม เขาถล่มเหตุผลต่างๆนาๆมาทันทีว่าแดนท์มันไม่ใช่คน เป็นซินท์ เป็นแค่เครื่องจักร เป็นสิ่งมีชีวิตที่จะทำลายล้างมนุษยชาติให้หมดไปนะ ตัวเอกเลยเถียงไปว่าแดนท์พยายามจะช่วยมนุษยชาติต่างหาก ไม่ใช่จะทำลายมนุษยชาติซะหน่อย แม็กซันก็ด่ากลับมาอีกว่า ตัวเอกน่ะเพี้ยนไปแล้วที่มารับฟังคำพูดของเครื่องจักรที่ถูกบังคับควบคุมได้

แดนท์ได้ฟังคำสวดอันลุกเป็นไฟของแม็กซันแล้วก็พูดมาว่า ที่แม็กซันพูดมันก็เป็นเรื่องจริง เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาจากห้องทดลอง แต่ทว่าเขาคิดว่าเขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักร อีกทั้งแดนท์ยังบอกว่าเขารักและเคารพในตัวของแม็กซันมาก เขาจะไม่มีทางทรยศความเชื่อใจของแม็กซัน และไม่มีวันทรยศ BOS เป็นอันขาด

แต่เมื่อไม่ใช่คนพูดอะไรแม็กซันก็ไม่ฟัง แม็กซันได้สั่งตัวเอกอีกครั้งว่าให้ทำลายแดนท์ทิ้งซะ ซึ่งเองแดนท์ก็คงจะปลงแล้วแหละ เขาจึงบอกกับตัวเอกไปว่า ไม่ว่าตัวเอกจะตัดสินใจยังไง แดนท์ก็ไม่เคยคิดที่จะโกรธแค้นตัวเอกเลยสักนิด และเมื่อสั่งเสียเสร็จ แม็กซันได้ย้ำขึ้นมาอีกว่า ตัวเลือกอยู่ที่ตัวเอกแล้ว ว่าจะทำลายแดนท์เองรึว่าจะให้แม็กซันเป็นคนจัดการ


ตรงนี้จะมีตัวเลือกสำคัญขึ้นมา 3 ข้อ

1.โยนงานไปให้แม็กซันเป็นคนฆ่าแดนท์ ฉากจบนี้ก็จะเหมือนกับ The Last Danse คือแดนท์จะยอมรับความตายแต่โดยดี แต่ต่างกันตรงที่ว่า คราวนี้คนที่ปลิดชีวิตของแดนท์จะเป็นแม็กซัน

2.ล้มเหลวในการตอบตัวเลือกเพื่อเกลี้ยกล่อมให้แม็กซันไว้ชีวิตแดนท์ หรือตัวเอกเลือกที่จะจบชีวิตของแดนท์ด้วยน้ำมือของตัวเอง

3.ตอบตัวเลือกผ่านและเกลี้ยกล่อมแม็กซันให้ไว้ชีวิตของแดนท์ได้สำเร็จ


ตัวเอกไม่เลือกหนทางการจบชีวิตของแดนท์ไหนทั้งนั้น เขาได้ขอแต่ให้แม็กซันฟังคำพูดของเขาก่อน เมื่อเห็นแก่ความดีที่เคยมี แม็กซันจึงรับยอมฟัง ตัวเอกเลยบอกกับแม็กซันไปว่า ถ้าแดนท์ตาย เขาเองก็คงไม่สามารถที่จะอยู่เป็นมิตรกับ BOS ต่อไปได้อีก ถ้าชีวิตของแดนท์นั้นมีค่าแค่เพียงนิดเดียว

แม็กซันจะตกใจ และบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าตัวเอกจะเอาหน้าที่การงานของตัวเองมาเสี่ยงเพียงเพราะเพื่อที่จะช่วยเหลือให้ซินท์คนหนึ่งมีชีวิตรอด

ในที่สุดแม็กซันจึงใจอ่อนยอมฟังคำขอของตัวเอกและยอมไว้ชีวิตแดนท์ แต่มีข้อแม้ว่า แดนท์จะโดนเฉดหัวเนรเทศออกไปจาก BOS และห้ามติดต่อกับใครหรือไปเยือนให้คนของ BOS เห็นอีกเป็นอันขาด ไม่งั้นจะโดนไล่กระทืบโดยไม่มีข้อแม้ แดนท์ตอบตกลงและขอบคุณในตัวของแม็กซัน อีอึ๋มจึงบอกว่าที่แดนท์ยังมีชีวิตอยู่นี่เป็นเพราะตัวเอกต่างหาก และเมื่อเขาพูดจบ เขาก็ได้บอกลับตัวเอกว่าให้ตัวเอกนั้นพูดคุยกับแดนท์ให้เต็มที่ (ตรงนี้ถ้าแดนท์ตายสงสัยจะให้ร่ำลาศพ...) ถ้าหมดธุระตรงนี้แล้วก็ค่อยไปหาเขาที่ The Prydwen เพราะเขามีเรื่องสำคัญที่จะคุยด้วย เมื่อพูดจบ แม็กซันก็นั่งเครื่องบิน Vertibird กลับ The Prydwen ทันที

เมื่อแม๊กซันจากไปแล้ว แดนท์จึงได้บอกกับตัวเอกว่า เขาจะอาศัยอยู่ที่ค่ายทหารเก่านี่อีกสักพัก ถ้าตัวเอกต้องการเขาให้ไปร่วมเดินทางอีกเมื่อไหร่ ก็ขอให้มาหาเขาได้ทุกเมื่อ เพียงแต่ว่าจะให้ไปตอนนี้เลยคงไม่ได้ เพราะตัวเอกมีธุระสำคัญที่ต้องไปที่ The Prydwen ก่อน

เมื่อตัวเอกพูดร่ำลากับแดนท์เป็นที่เรียบร้อย ให้เดินทางตาแม็กซันไปยังที่ The Prydwen และเข้าไปคุยกับอีอึ๋มที่ห้องประชุมตามเดิม อึ๋มจะเป็นฝ่ายทักขึ้นมาก่อนเหมือนเดิมถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อสักครู่นี้ ในเรื่องของแดนท์ แม็กซันช่วยพูดโกหกให้แก่สมาชิกของ BOS ได้รับฟังแล้วว่าตัวเอกนั้นฆ่าแดนท์ทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ในกรณีที่แดนท์ยังรอด แต่ถ้าแดนท์ตายคือพูดจริง) และสำหรับ BOS นั้น แดนท์ก็ได้ตายไปแล้วด้วย ขอให้ตัวเอกได้เข้าใจไว้ด้วย ตัวเอกจึงได้ย้อนถามกลับไปว่า แม็กซันคงจะไม่ส่งคนไปตามล่าหรือฆ่าแดนท์ลับหลังของตัวเอกหรอกนะ อึ๋มจึงได้บอกว่า เห็นแบบนี้แต่เขาก็เป็นคนที่รักษาคำพูดมากพอนะ

อีกทั้งการว่างตำแหน่งของแดนท์ก็ทำให้ระบบภายในองค์กรของเขาปั่นป่วนไม่ใช่น้อย และแม็กซันเองก็เห็นว่าตัวเอกทำหน้าที่ได้ดี และก็คงจะสามารถเป็นตัวแทนของแดนท์ที่เหนือกว่าได้ด้วย แม็กซันจึงได้มอบยศ Paladin ที่แดนท์เคยได้รับให้แก่ตัวเอก รวมถึงข้าวของส่วนตัว , ห้องพัก (ห้องที่เขียนไว้ว่า Prydwen Quarters ที่อยู่ทางด้านขวาของห้องพักของแม็กซัน (อ่า...ห้องพักของแดนท์)) และหุ่น T-60d power armor ที่แดนท์เคยสวมใส่ด้วย (อยู่ที่ Power armor station ช่อง 01)


หมายเหตุ

- ในห้องที่ตัวเอกได้พบกับแดนท์อีกครั้ง จะมีกล่องยา Grape Mentats ที่กินแล้วเพิ่ม Charisma+5 วางให้อยู่ 2 กล่อง ใครที่สกิล Charisma ตำเกินจนคิดว่าไม่ผ่านเควสแน่นอน ก็สามารถหยิบมากรึ๊บได้เลย แต่ให้ระวังว่าแดนท์ไม่ชอบด้วยนะ เพราะ Mentats จะจัดอยู่ในหมวดยาเสพติด

- ให้ระวังเมื่อเดินทางโดยการวาปร์ไปยังป้อม Listening Post Bravo เพราะป้อมปืนมันจะยิงใส่ผู้เล่นทันทีหลังจากที่โหลดฉากเสร็จ

- หลังจากที่จบเควสนี้ก็จะเริ่มเควสเนื้อเรื่องที่ชื่อ Tactical Thinking ต่อ ซึ่งการรับเควสนี้จะทำให้ผู้เล่นเป็นศัตรูกับฝ่าย Railroad ทันที ดังนั้นถ้าใครยังไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งไปรับเควสจาก Lancer Captain Kells เน้อ

- ความสัมพันธ์ของแดนท์จะขึ้นได้สูงสุดแค่ 999 และจะไม่ขึ้นจนกว่าเควส Blind Betrayal จะจบ และถ้าหากเขายังมีชีวิตรอด หลังจากจบเควสครั้งต่อมาแดนท์จะสวมใส่ชุด X-01 Power Armor Mk.II แทนชุด T-60 Power Armor ชุดเก่าของเขา อีกทั้งถ้าความสัมพันธ์ของผู้เล่นกับเขาเต็ม ผู้เล่นก็จะได้สกิล Know Your Enemy จากเขาเป็นการตอบแทนด้วย

- เกี่ยวกับความคิดเห็นของคู่หูที่มีต่อแดนท์ในเควสนี้

--- Cait : เห็นด้วยที่จะให้แม็กซันฆ่าแดนท์ เพราะเธอชื่อว่า แดนท์รู้ความจริงอยู่แล้วแต่เลือกที่จะพูดโกหกใส่ตัวเอกว่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง

--- Codsworth : จะปกป้องแดนท์ เขาจะให้เหตุผลว่า ตัวเอกไม่ควรที่จะฆ่าใครด้วยเหตุผลสั้นๆ ต้องคิดให้ดีก่อนว่าคนๆนั้นสมควรตายจริงๆ

--- Curie : จะไม่เห็นด้วยที่จะให้แดนท์ตาย เธอให้เหตุผลว่า BOS ต่างหากที่ไม่เห็นคุณค่าความดีที่แดนท์เคยทำไว้เลย และมันไม่สำคัญด้วยว่าเขาจะเป็นซินท์หรือไม่ก็ตาม

--- Deacon : จะปกป้องแดนท์ เขาจะบอกว่า ถึงแดนท์จะปากหมาและก้าวร้าว แต่แดนท์ก็คือเพื่อนของตัวเอก ซึ่งตัวเอกไม่ควรจะฆ่าคนที่เห็นว่าเป็นเพื่อนหรอก

--- Hancock : จะบอกกับแม็กซันว่า ถ้าอีอึ๋มอยากให้แดนท์ตายนักก็เอามีดไปให้เขา เดี๋ยวเขาสงเคราะฆ่าวัวขึ้นสวรรค์ให้เอง

--- Preston : จะปกป้องแดนท์ และจะบอกว่าแดนท์ไม่ควรจะถูกฆ่าตายเพียงเพราะเขาแค่ "อาจจะ" เป็นซินท์


--- Nick : จะปกป้องแดนท์ เขาจะบอกว่าคำสั่งของแม็กซันนั้นมันไม่ยุติธรรม อีกทั้งนิคเองก็สงสัยและอยากรู้ด้วยว่า แดนท์ที่รู้ความจริงของตัวเองนั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแบบไหนกันแน่

--- Piper : จะเข้าข้างแดนท์ เธอจะบอกกับตัวเอกว่าเขาไม่ควรทำตามคำสั่งจาก "คนบ้า" (แม็กซัน) นี่หรอก

--- MacCready : เห็นด้วยกับแม็กซันทุกประโยค เขาจะบอกว่าเขาไม่แปลกใจเลยที่แดนท์เป็นซินท์ เพราะตานั่นไม่เคยแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆเลย

--- Strong : อยากให้แดนท์ตาย เพราะเขาแค่อยากเห็นใครสักคนถูกฆ่า

--- X6-88 : จะเป็นกลาง อีกทั้งเขายังสงสัยด้วยว่าเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแดนท์เป็นซินท์ และถ้าปล่อยให้แดนท์ตาย เขาจะบ่นด้วยว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินอันมีค่าทิ้งไปเสียแล้ว

ความคิดเห็น