Ghost Recon Wildlands : ข้อมูลและประวัติของ Nomad


ข้อมูลและประวัติของ Nomad

มีสปอย : ข้อมูลของตัวละคร และเนื้อเรื่องของเกม

Anthony Perryman (แอนโทนี เพอร์รี่แมน) หรือนามแฝงของเขาก็คือ Nomad (โนแมด) เขาเป็นผู้นำของทีม Ghost (กองกำลังพิเศษของกองทัพสหรัฐอเมริกา) และยังทำหน้าที่เป็นหน่วยยิงสนับสนุนด้วย ซึ่งโนแมดเองนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องทำการตัดสินใจในสิ่งที่สำคัญอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญเลยคือ ในกองทัพสหรัฐเขาได้รับการฝึกฝนตนเองเพื่อที่จะสามารถนำการฝึกฝนนั้นไปยกระดับความเชี่ยวชาญของสมาชิกแต่ละคนที่อยู่ในทีมของเขาเพื่อให้ภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี

พร้อมด้วยสมาชิกคนอื่นๆในทีม Ghosts อย่าง Holt , Midas และ Weaver โมแมดถูกพาตัวไปที่ Bolivia เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งและให้ทำงานใหญ่อย่าง Operation Kingslayer ปฏิบัติการที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง CIA , DEA , และ JSOC เพื่อที่จะกำจัดกลุ่มมาเฟีย Santa Blanca กลุ่มผู้มีอิทธิพลขนาดใหญ่ที่ใช้ประเทศโบลีเวียเป็นแหล่งผลิตและจัดจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งกลุ่มของโนแมดเองนั้นก็ได้ทำงานร่วมกับผู้ดูแลที่มาจาก CIA นามว่า Karen Bowman (คาเรน โบว์แมน)

ซึ่งความสามารถของโนแมดที่เขาทำได้ ทั้งการที่มีความสามารถพูดภาษาสเปนได้อย่างคล่องแคล่ว และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารรวมทั้งสงครามทางด้านจิตวิทยาและอื่นๆอีกมาก ความสามารถที่เขามีนี้นั้นจะมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจของเขาเอง อีกทั้งสมาชิกของ CIA นามว่า “Matchwood” เองก้ได้พูดถึงความสามารถที่โนแมดได้มีด้วย


Anthony "Tony" Perryman เกิดที่ Boston ตอนอายุ 18 ปีเขาตัดสินใจสมัครเข้ารับการศึกษาระดับปริญญาตรี กลายเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรและกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Delta Force ได้ก่อนที่เขาจะอายุถึง 24 ปีเสียอีก

หลังจากใช้เวลาอยู่กับหน่วย Counter - terrorist Task Force 88 มาระยะหนึ่ง โนแมดก็ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของทีม Ghost ด้วยผลงานอันน่าประทับใจของเขา และในช่วงนั้นเองที่ทำให้โนแมดเข้ามามีส่วนร่วมในงานปฏิบัติการด้านความลับชั้นนำมาแล้วมากมายทั่วโลก และเมื่อสองปีก่อน เขาก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าของทีม Ghost

ทางด้านบุคคลิกภาพ โนแมดยังคงความสงบนิ่งได้แม้อยู่ภายใต้ความกดดันที่หนักหน่วง เขาเป็นบุคคลตัวอย่างของคนที่มีความเงียบและสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ในทุกสถานการณ์อย่างสมบูรณ์แบบ อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขามักจะชอบพูดล้อเล่นกันอยู่เสมอว่า ในตอนที่โนแมดกระโดดร่มชูชีพก็อย่าลืมไปช่วยตรวจสอบชีพจรในร่างกายของเขาให้ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าโนแมดยังมีชีวิตอยู่ เพราะถึงจะอยู่ภายใต้การกระโดดร่มที่น่าหวาดเสียว โนแมดก็ยังคงทำหน้าขรึมและไม่ตกใจต่อความสูงที่ต้องเจอเลยสักนิด


ในช่วงเวลาก่อนที่จะทำการลงมือปฏิบัติการ Operation Kingslayer

หน่วยของโนแมดก็ได้ถูกจับตัวโดยกลุ่มกบฏชาวเม็กซิกัน และพบว่าตัวของเขาเองนั้นต้องต่อสู้เคียงข้างไปกับสมาชิกในทีม Ghoat คนอื่นๆอย่าง John Hume (จอห์น ฮูม)และ Nick Salvatore (นิค ซัลวาทอร์เร)

หลังจากได้รับการคัดเลือกให้เข้าทีม Ghost เขาก็ถูกบรรจุให้ทำงานในทีมเดียวกันกับ Sage (เซจ) , Joker (โจ๊กเกอร์) และ Weaver (วีเวอร์) ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ Donetsk และในภารกิจนั้นเอง เซจและโจ๊กเกอร์ก็ได้รับบาดเจ็บ โนแมดจึงได้รับมอบหมายให้เป็นคนดุแลภารกิจคนใหม่ ภารกิจหนึ่งของพวกเขาก็คือการทำลาย UAV ที่ถูกโจมตีในอเมริกาใต้ รวมทั้งช่วยทีมนักวิจัยและนักโบราณคดีจากกลุ่มก่อการร้ายที่จับพวกเขาไว้ไปเป็นตัวประกัน

และในระหว่างการบรรยายสรุปภารกิจเบื้องต้น โนแมดก็ได้เปิดดูวิดีโอของ El Sueño ที่กำลังจัดการลงโทษครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในโบลิเวีย ซึ่งสุดท้ายแล้ววิดีโอนี้ก็ได้ทำให้เขาตระหนักได้ นับตั้งแต่นั้น โนแมดได้ให้คำมั่นกับตัวเองว่า เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะหยุด El Sueño ลงให้จงได้

ระหว่างการลงมือปฏิบัติการ Operation Kingslayer

ทีมของเขาถูกส่งตัวไปที่โบลิเวียและได้พบกับโบว์แมน ก่อนที่พวกเขาจะได้รู้จักับ Pac Katari (แพค คาทาริ) ที่ขอให้พวกของโนแมดนั้นไปช่วย Amaru (อามารุ) ทีมงานของโนแมดประสบความสำเร็จในการช่วยผู้นำกบฏและได้รับมอบหมายให้ไปตามหาคนที่รับผิดชอบการจับกุมและทรมาน El Yuri และ El Polito และเมื่อทั้งสองคนถูกกำจัด หน่วย Ghost ก็ได้เพิ่มพันธมิตรเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจของ El Sueño มาให้ได้ด้วยตัวเอง

เนื้อเรื่องในช่วง Fallen Ghosts

หลังจากที่ภารกิจของพวกเขาได้เสร็จสิ้น และกลุ่ม Santa Blanca ก็ได้แตกกระจายกันออกไป โนแมดและทีมก็ยังคงอยู่ที่โบลิเวียเพื่อที่จะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ CIA แต่ทว่าในระหว่างการโดยสารเฮลิคอปเตอร์นั้น เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขากลับถุกยิงลงมา และพวกเขาต้องเอาตัวรอดจากกลุ่มทหารรับจ้างที่มีนามว่า Los Extranjeros ให้จงได้


หมายเหตุ

- โนแมดได้รับยศเป็นพันตรีในกองทัพสหรัฐ และเป็นนายทหารเพียงคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในทีม อีกทั้งเขาอาจจะเป็นถึงรองผู้บัญชาการของหน่วย Ghost เลยก็ได้

- โนแมดสามารถพูดภาษาสเปนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่สำเนียงของเขานั้นเข้าขั้นแย่จนเจ้าของภาษายังปวดใจ

- ในภาค Wildlands โนแมดมีอายุ 36 ปี

- โนแมดมีลูกชายคนหนึ่ง เขาเองก็ยังคงมีปัญหากับลูกของเขาด้วย

- โนแมดต้องปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่า เขาต้องรักษาอาชีพที่แท้จริงของเขาที่อยู่ในกองทัพให้เป็นความลับจากครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกชายของเขาที่จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด แต่เขาก็สามารถเก็บรักษาความลับไว้ได้ด้วยดีและไม่มีใครในครอบครัวเอะใจในเรื่องนี้เลย
 
- เขาคิดว่าภารกิจ Operation Kingslayer เป็นภารกิจแก้แค้นของ CIA และเขาเองก็จะหลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในท้องถิ่น
 
- โนแมดคือหนึ่งในตัวละครของภาค Wildlands ได้รับการยืนยันในงาน Gamescon ปี 2016 แล้วว่าผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นเป็นเขา และสามารถปรับแต่งตัวละครให้สมบูรณ์แบบได้
 
- โนแมดคือตัวละครหลักในโหมด Single Player ซึ่งตัวของเขานั้นสามารถถูกแก้ไขเพศให้เป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ได้ แม้ว่าว่าเพศดังเดิมของเขาจะเป็นเพศชายอยู่แล้ว
 
- โนแมดเพศชายถูกให้เสียงพากย์โดย Steve Byers ในขณะที่โนแมดเพศหญิงถูกให้เสียงพากย์โดย Andrea Deck

- ในภาค Narco Road ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นตัวละครใหม่ที่ชื่อว่า Ghost แทนที่จะได้เล่นเป็นโนแมด

- แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถเล่และควบคุมเป็นโนแมดได้อีกครั้งในภาค Fallen Ghosts แต่ผู้เล่นก็ต้องสร้างตัวละครใหม่สำหรับภาคนี้ขึ้นมาหมดอยู่ดี


การปรากฎตัว

โนแมดปรากฎตัวเฉพาะใน

- Tom Clancy's Ghost Recon Wildlands : Dark Waters

- Ghost Recon Wildlands : War Within the Cartel

- Tom Clancy's Ghost Recon Wildlands

ความคิดเห็น

Recommend