FAR CRY 4 : สรุปเนื้อเรื่องภาค Valley of the Yetis


Far Cry 4 : Valley of the Yetis

มีสปอย : เนื้อหาและเนื้อเรื่องของตัวเกม

เริ่มเกมมาเฮลิค๊อปเตอร์ที่อาเจย์โดยสารมาจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้ ฮ.ตกในหุบเขาแห่งหนึ่งบนภาคเหนือของคีราท แถมระหว่างที่อาเจย์กำลังนอนสลบหมดสติ คนขับ ฮ.โดนจับตัวไป (น่าแปลกที่คนร้ายมันไม่จับตัวอาเจย์ไปด้วย หรือมันไม่เห็นหว่า??) อาเจย์เลยต้องดั้นด้นไปช่วยเหลือในสภาพที่มีมีดแค่เล่มเดียว

เพื่อที่จะช่วยเหลือคนขับ ฮ. เขาเลยต้องเดินทางผ่านหุบเขาอันหนาวเหน็บที่มีแต่หิมะปกคลุม แต่เมื่อเดินทะลุถ้ำที่อยู่ใกล้ๆนั้นไป เขากลับพบคนจำนวนหนึ่งในถ้ำ เป็นทหารติดอาวุธ แต่ที่น่าแปลกคือถ้ำนั่นถูกแปลงเป็นศาลเจ้าไหว้อะไรสักอย่างที่แปลกๆ ที่อาเจย์ไม่เคยเห็นมาก่อน มิหน่ำซ้ำกลุ่มคนติดอาวุธพวกนี้ยังแต่งตัวแปลกๆ และก็ไม่ใช่เป็นคนของเพแกนด้วย...

หลังจากที่อาเจย์เดินตามร่องรอยที่คาดว่าน่าจะเป็นของกลุ่มคนที่จับคนขับ ฮ.ไป เขากับพบว่ากลุ่มคนพวกนี้ได้ย้ายฐานหนีไปเสียแล้ว และเมื่อชายหนุ่มเดินทางออกมาจากถ้ำเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบกับทหารของพวกนี้นอนตายกันเกลื่อนคาที่พักแรม สภาพข้าวของกระจัดกระจาย แถมนพื้นที่บริเวณนั้นยังมีรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อยู่อีกด้วย 

อาเจย์ต้องไปถล่มสถานีวิทยุของกลุ่มคนแปลกๆพวกนี้ เพื่อยึดใช้เป็นที่พักและติดต่อขอความช่วยเหลือ ช่วงแรกๆอาเจย์ร้องขอความช่วยเหลือบ่อยมาก จนเสียงฮีนี่แทบจะร้องไห้รอมล่อ...

เมื่อรออยู่ที่สถานีวิทยุสักพัก ก็มีบุคคลติดต่ออาเจย์มาว่า คนขับ ฮ.เอ็งเนี่ย อยู่กับข้านะ มาสถานที่นี้ๆตามที่ข้าบอกซะ ไม่งั้นคนขับ ฮ.ตาย ด้วยความเป็นคนดี อาเจย์ก็ไปตามที่บุคคลปริศนานี่บอก และเมื่อไปถึงก็พบกับคนขับ ฮ.จริงๆ และเมื่อพยายามจะช่วยเหลือ อาเจย์กลับถูกทหารของลัทธิปริศนานี่ใช้ปืนตีจนสลบ...

เมื่อรู้สึกตัวอีกที...เขากลับพบว่าตัวเขาเองถูกทิ้งให้อยู่ในถ้ำอีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าที่ไหน ในสภาพไร้อาวุธ อาเจย์ครุ่นคิดอยู่ได้ไม่นานนักก็ได้ยิงเสียงกรีดร้องของคน ที่เรียกร้องขอความช่วยเหลือ ราวกับว่าเขากำลังโดนทำร้าย เมื่อวิ่งไปตามเสียงก็พบว่า คนที่ร้องขอความช่วยเหลือเมื่อครู่นี้ ถูกฉีกทิ้งแบบไม่มีชิ้นดี ด้วยฝีมือของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ถูกเรียกกันว่า "เยติ"!!

มาถึงตรงนี้อาเจย์รู้แน่นอนแล้วว่าเขากำลังถูกทิ้งให้เป็นอาหารของเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้ และถ้าไม่รีบหนี ซากศพคนต่อไปที่นอนแบบสภาพไร้ห้วจะต้องเป็นเขาแน่ๆ!!

อาเจย์หลบหนีมาจากถ้ำของเยติได้ด้วยตะขอปีนเขาที่ชายหนุ่มเก็บมาจากซากศพในถ้ำ เมื่อออกมาจากถ้ำได้ เขาก็พบค่ายเล็กๆของพวกลัทธิ เขาเลยลอบสังหารคนภายในค่ายและเก็บอาวุธของเขาที่ถูกยึดไปกลับคืนมา

เมื่อรอดพ้นจากความตายจากสิ่งมีชีวิตแปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนได้ อาเจย์ก็ได้เดินทางกลับไปยังสถานนีวิทยุเพื่อรอหัวหน้าลัทธิติดต่อมาเจรจาอีกที อยู่ในที่พักก็ใช่ว่าจะได้รอความช่วยเหลืออย่างสุขสบาย เพราะตอนเช้า เจ้าหัวหน้าลัทธิจะติดต่อมากวนโอ๊ยอาเจย์ จำต้องทำให้เจย์ไปทำภารกิจเสี่ยงตายหลายอย่าง

ส่วนตอนกลางคืนก็ต้องปกป้องที่พัก ที่ถูกพวกลัทธิคุกคามหมายจะยึดคืน เรียกได้ว่าแทบไม่ได้หลับได้นอน เพราะกว่าจะหมดศัตรูก็ฟ้าสางพอดี ซึ่งศัตรูก็ไม่ยอมวางมือง่ายๆ บุกกันมาได้ถึงห้าคืน ยิ่งกว่านั้น... บางคืนยังมีพี่เยติบุกมาหาอาหารอย่างน้องเสือ (อาเจย์) กันถึงที่พักเลยทีเดียว

ช่วงหนึ่งเมื่อเขาช่วยนักบินมาได้แล้ว เขากลับพบว่านักบินได้โทรสื่อสารมาหาเขา และได้พูดจาแปลกๆเกี่ยวกับ "Relic" วัตถุปริศนาที่พวกลัทธิที่อาศัยอยู่ที่นี่ได้บูชามันอยู่ ซึ่งมีคำร่ำลือมาว่า ลูกน้องจำนวนหนึ่งของยูมะ ได้มาค้นหา Relic ที่ว่านี่ในถ้ำที่อยู่บนเขาสูง แต่พวกเขาได้หายตัวไปและไม่เคยออกมาจากถ้ำที่มี Relic อยู่เลย...

ผ่านไปห้าวันห้าคืน หลังจากที่ถล่มลัทธิบูชาเยตินี่จนราบ และส่งหัวหน้าลัทธิไปสวัสดียาลุ๋งได้แล้ว โทรศัพท์สื่อสารกลับมีบุคคลอื่นติดต่อเข้ามา ซึ่งบุคคลนั้นไม่ใช่ใครอื่น... เขาคือหนึ่งในสมาชิกของโกลเด้นท์พาท!!

แต่เมื่อติดต่อกับโกลเด้นท์พาทได้ อาเจย์ดันไม่ยอมกลับ บอกขอทำลาย Relic ก่อน แล้วถึงจะยอมกลับไป...

อาเจย์ต้องบุกไปยังศาลเจ้าที่มี Relic ที่นั่นเป็นถ้ำที่อยู่บนภูเขาสูงที่อากาศที่มนุษย์ใช้หายใจนั้นมีอยู่น้อย และในถ้ำก็ยังมีเยติสีขาวที่โหดกว่าเยติปกติอีกหลายเท่าอยู่ด้วย เมื่อเข้าไปในถ้ำได้ อาเจย์กลับพบว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับรังของเยติ เพราะมีซากเยติแห้งตายอยู่มากมาย ยิ่งกว่านั้นยังมีซากทหารของยูมะนอนตายอยู่ด้วย

สุดท้ายเมื่อทำลายได้ Relic อาเจย์กลับหมดสติและสลบไป เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองได้กลายเป็นเยติไปเสียแล้ว... เพราะแท้จริงแล้ว Relic คือวัตถุปริศนาที่เปลี่ยนมนุษย์ที่เข้าใกล้มันให้กลายเป็นเยติ

Your path is with us. Not against us.

Awaken and walk beside us.

และนี่คือเสียงสุดท้ายที่อาเจย์ได้ยิน...


คุณพระช่วยแม่น้ำเจา้พระยาที่สะอาด... จบทําร้ายแฟนคลับอาเจย์มาก อาเจ่เจ้ยก์ลายเป็นเยติ แถมตัดจบไปดื้อๆ คัทซีนขึ้นเฉยเลย

ถ้าเล่น CO-OP เป็นเฮิร์ก ก็จะมีคัทซีนของมุมมองเฮิร์กเองด้วยค่ะ (ภาคนี้เล่น CO - OP ในโหมดเนื้อเรื่องได้ค่ะ) ซึ่งรินสลับสนุนค่ะว่า ถ้าอยากได้เนื้อเรื่องที่ครบถ้วน ให้หาเพื่อเล่น CO - OP ดีกว่าค่ะ เพราะในภาคเยตินี้ ถ้ามีบทสนทนา อาเจย์นางจะพูดคนเดียวบ่อยมาก บ่อยแบบผิดปกติ ซึ่งถ้าเล่น CO - OP แล้วมีเฮิร์กยืนอยู่ด้วยนี่จะถึงบางอ้อเลยค่ะ เพราะว่าที่อาเจย์พูดคนเดียว จริงๆแล้วพี่แกพูดกับเฮิร์กนี่เอง (ถ้ามีเฮิร์กด้วยพออาเจย์พูดจบปุ๊บ เฮิร์กจะพูดตอบทันที) และแน่นอนว่าจบแบบเฮิร์กๆเองก็เป็นเยติเช่นเดียวกับอาเจย์

หลังจากที่เกมเข้าสู่ฉากจบแล้ว มันก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาเจย์หลังจากที่เขากลายเป็นเยติ แต่มีข้อสันนิฐานกันว่า ในช่วงสุดท้ายที่อาเจย์กลายเป็นเยตินั้นเกิดมาจากอาการหลอนของการที่ไปสัมผัสกับ Relic เข้าค่ะ อาเจย์เลยหลอนและคิดว่าตัวเองกลายเป็นเยติไป 

แต่หลังจากนั้นทางทีมงานผู้สร้างก็ได้ปล่อยข้อมูลและ Concept Art ออกมาว่า เนื้อเรื่องใน DLC ภาคเยตินี้อยู่ระหว่างกลางในเนื้อเรื่องของเกมหลักช่วงที่อาเจย์ได้ถูกจับไปที่คุกน้ำแข็ง Durgesh และได้ทำการหลบหนีออกมาค่ะ (ถ้าใครสังเกตทัน ในคัทซีนนั้นก็จะได้เห็นเงาของเยติมาให้เห็นลางๆด้วย) และหลังจากที่ไปเผชิญกับเยติมา อาเจย์ก็ได้รับการช่วยเหลือให้ออกมาจากเทือกเขาหิมาลัยดงเยติโดยการโดยสารเฮลิคอปเตอร์ และพ่อพระเอกของเราก็ไปนอนสลบที่บ้านพัก Ghale Homestead ตามด้วยฉากคัทซีนที่อมิตาหรือซาบาลนั่งเฝ้าอยู่นั่นเอง เพราะฉะนั้นเนื้อเรื่องในภาคนี้จบแบบปกติมีเนื้อเรื่องต่อ และตับไม่พังค่ะ

ความคิดเห็น

Recommend