FALLOUT 4 : ข้อมูลและประวัติของ Conrad Kellogg

ข้อมูลและประวัติของ Conrad Kellogg

มีสปอย ข้อมูลของตัวละคร

Conrad "Connie" Kellogg (คอนราด "คอนนี่" เคลล็อก) เป็นมือปืนรับจ้างระดับสูงที่ทำงานหลักให้แก่ The Institute ระหว่างที่เขาอยู่ที่เขต The Commonwealth อีกทั้งเขายังเป็นตัวละครหลักที่รับบทเป็นศัตรูหลักของผู้เล่นในเกม Fallout 4 อีกด้วย

เคลล็อกเกิดในปี ค.ศ.2179 ที่เขต New California Republic ในแถบฝั่งตะวันตก ในช่วงวัยเด็ก เคลล็อกอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ยากจนที่มีพ่อของเขาที่เป็นอดีตไรเดอร์ที่ปากจัดและขี้โมโหเป็นหัวหน้าของครอบครัว ซึ่งเคลล็อกไม่เคยรักในตัวพ่อของเขาเลย แต่เขากลับรักแม่ของเขามาก

ด้วยความที่พ่อของเคลล็อกนั้นจะเอาเวลาชีวิตของตัวเองส่วนใหญ่ไปกับการดื่มเหล้าจนเมาหัวราน้ำและไม่เคยทำตัวเป็นพ่อที่ดีเลย ในที่สุดแม่ของเคลล็อกก็หมดความอดทนไปอีกคน พ่อของเคลล็อกกลายเป็นคนที่ถูกครอบครัวรังเกียจ ปฎิเสธที่จะสนทนาด้วยและไม่นับญาติกับเขาอีกต่อไป และแม่ของเคลล็อกก็ได้สั่งสอนลูกชายของเธอเพื่อสนับสนุนเขา 

เธอสอนให้เคลล็อกได้รู้ว่าการใช้ชีวิตในโลกแบบนี้ด้วยการอาศัยพึ่งคนอื่นนั้นเป็นวิธีที่โง่เขลามาก และสิ่งเดียวในโลกใบนี้ที่เคลล็อกจะสามารถพึ่งพาได้นั้น คือตัวเขาเอง และอีกสั่งหนึ่งก็คือปืนในมือของเขาเท่านั้น เมื่อกล่าวกับลูกชายจบ แม่ของเคลล็อกก็มอบปืนกระบอกหนึ่งเป็นของขวัญให้แก่ลูกชาย ซึ่งปืนกระบอกนั้นก็คือปืน Kellogg's pistol ที่เคลล็อกใช้เป็นอาวุธคู่กายยันปัจจุบันนั่นเอง

เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เคลล็อกได้ย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่เขต San Francisco เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Sarah (ซาร่า) และมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อว่า Mary (แมรี่) ในระหว่างที่ทำงานอยู่ที่เขต San Francisco เคลล็อกได้ทำงานเป็นมือปืนให้กับฝ่ายหนึ่งในเขตนั้นที่มีชื่อว่าฝ่าย Shi

แต่ไม่นานัก เรื่องที่หน้าเศร้าก็เกิดขึ้นกับเขา ภรรยาและลูกสาวของเคลล็อกกลับถูกฆ่าตายอย่างปริศนาโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ซึ่งนี่ก็เป็นผลตอบแทนมาจากที่เขาทำงานเป็นมือปืนและออกฆ่าคนนั่นเอง

หลังจากผ่านการตายของภรรยาและลูกสาว จนทำให้คำว่าครอบครัวของเขานั้นพังทลายลง เคลล็อกได้ใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการเดินทางไปยังทิศตะวันออกและยังคงทำงานเป็นมือปืนรับจ้างตามเดิม เขารับทำงานทุกอย่างและไม่เกี่ยงแม้ว่านั่นจะเป็นงานที่สกปรกและมือต้องเปื้อนเลือดแค่ไหนก็ตาม

 ต่อมา เคลล็อกจึงเดินทางมาถึงยัง East Coast และเรื่อยมายัง The Commonwealth ซึ่งในที่สุดฝีมือการสังหารของเขาก็ไปเข้าตายังกลุ่ม The Institute และถูกทาบทามการว่าจ้างเพื่อให้มาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ Institute ทั้งการเป็นผู้ติดต่อและเป็นผู้เก็บกวาดบนพื้นโลกด้านบน ด้วยความที่เคลล็อกมีความฉมังในการทำงานบนพื้นโลก เขาเลยสามารถทำหน้าที่มาเป็นมือและเท้าของ Institute ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเคลล็อกยังสามาทำงานในบางส่วนที่คนของ Institute ทำไม่ได้ด้วย

จนวันหนึ่ง เคลล็อกได้รับมอบหมายงานมาจาก Institute ว่าให้นำทีมนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งของ Institute ไปทำการบุกรุก Vault 111 เนื่องจากว่า Institute ต้องการที่จะได้ DNA ของคนที่มีค่าความบริสุทธิ์ในเลือดแบบที่ปราศจากการปนเปื้อนของสารรังสีเลย พวกเขาจึงได้ค้นพบขุมทรัพย์อันล้ำค่าที่สุดของมนุษยชาติเลยทีเดียว เพราะใน Vault 111 นั้นมีการทดลองแช่แข็งผู้คนที่มาจากยุคก่อนสงครามให้อยู่ในสภาพหลับและจำศีลอยู่ Institute จึงเห็นด้วยว่าผู้คนที่ถูกจำศีลนี้จะต้องเป็นต้นแบบในการทดลองที่สมบูรณ์แบบแน่นอน และพวกเขาก็เลือก Shaun (ฌอน) เด็กทารกที่ยังมีอายุไม่ถึง 1 ขวบเป็นเป้าหมายในการทดลอง

และเมื่อเคลล็อกไปถึงที่นั่นก็ปรากฏว่า พ่อ/แม่ของเด็กน้อยคนนั้นไม่ยอมมอบเด็กให้แก่นักวิทยาศาสตร์แต่โดยดีจนทำให้เขาต้องพลั้งมือฆ่าพ่อ/แม่ของเด็กน้อยนั้นจนถึงแก่ความตาย หลังจากที่เกิดโศกนาฏกรรมไปแล้ว เคลล็อกได้เดินมายังกล่องที่แช่แข็งตัวเอกอยู่ เขาทำท่าล้อเลียนตัวเอกและเรียกตัวเอกส่งท้ายว่า "ตัวสำรอง" ก่อนที่จะออกจาก Vault 111 ไป และท้ายที่สุด Institute ก็ประสบผลสำเร็จในการทดลองใช้ DNA ของฌอนในการสร้าง Synths รุ่นที่ 3 ขึ้นมา

ในช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่เป็นที่แน่ชัด เคลล็อกได้ถูกดัดแปลงร้างกายให้เป็น Cybernetically enhanced หรือ Cyborg โดย Institute เพื่อไม่ให้อายุขัยของเคลล็อกเจริญเติบโตได้อีก อีกทั้งยังทำให้เคลล็อกไม่สามารถแก่ตายได้เพื่อเป็นการยื้อให้เขาทำงานกับ Institute ต่อไปได้เรื่อยๆ จนในปี ค.ศ.2287 เคลล็อกได้มีอายุขัยของเขาร่วมๆที่ 108 ปีแล้ว แต่ร่างกายของเขาดูเหมือนจะมีอายุไม่เกินที่ 40 ปีเลย

และในช่วงเวลาหนึ่งหลังจากที่เขาลักพาตัวณอนและส่งมอบเขาให้แก่ Institute ไปแล้ว เคลล็อกก็ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในเมือง Diamond City และใช้ชีวิตกับซินท์ที่มีรูปลักษณะเป็นเด็กชายณอนในวัย 10 ขวบ (ตามบันทึกและคำบอกเล่าของ Ellie Perkins เลขาของ Nick) จนวันหนึ่งเคลล็อกก็ได้ละทิ้งบ้านและออกจากเมืองไปหลังจากที่ X6-88 ได้มาเพื่อพาตัวซินท์ของเด็กชายณอนกลับไปยัง Institute และมอบหมายงานชิ้นใหม่ในนามของ Institute ให้แก่เขา ซึ่งงานที่ว่านี่ก็ไม่พ้นเป็นงานสกปรก เพราะงานใหม่นี้ เคลล็อกได้รับมอบหมายให้มา

ติดตามหาชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Dr.Brian Virgil (ดร.ไบรอัน เวอร์จิล) ผู้ที่ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทรยศต่อ Institute และเวอร์จิลก็ได้หลบหนีออกมาจาก Institute ได้ไม่นานมานี้ด้วย และเพื่อเตรียมงานในการล่าสังหารเหยื่อรายต่อไป เคลล็อกจึงได้ย้ายฐานทัพของตนมาตั้งค่ายอยู่ที่ Fort Hagen ถึงแม้ว่าการออกจากเมือง Diamond City จะเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักก็ตาม

และด้วยความช่วยเหลือของ Dogmeat จึงทำให้ตัวเอกนั้นสามารถค้นหาและติดตามตัวของเคลล็อกจนเจอได้สำเร็จ และในระหว่างที่ตัวเอกกำลังต่อสู้กับดงซินท์และเดินทางเข้าไปยังในอาคารของ Fort Hagen เคลล็อกที่สังเกตเห็นคนที่คุ้นหน้าของเขานั้นได้บุกเข้ามาแล้ว พี่แกเลยเปิดไมค์พูดจาล้อเลียนตัวเอกและพยายามกล่อมตัวเอกให้กลับออกไปซะ ถ้าไม่อยากเอาชีวิตของตัวเองมาทิ้ง แต่ทว่าเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วตัวเอกก็ไม่ย่อท้อเช่นกัน เขายังคงบุกเข้าไปเพื่อที่จะพบกับเคลล็อกให้ได้ จนในที่สุดเคลล็อกก็เห็นในความพยายามของตัวเอก เขาเปิดโอกาสให้ตัวเอกได้ลองมาคุยเจรจากับเขาดู และบอกกับตัวเอกไปว่า ณอนนั้นไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว เพราะเขาส่งมอบตัวของณอนไปให้แก่ Institute แล้ว และนี่ก็เป็นเหตุผลในการต่อสู้ของเขากับตัวเอก จนสุดท้าย เคลล็อกก็เสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของตัวเอกเอง

หลังจากที่ปิดฉากชีวิตที่มีเบื้องหลังอันแสนเศร้าของบักมือปืนหัวเหม่งลง ตัวเอกก็สามารถที่จะเข้าถึงความทรงจำของเคลล็อกด้วยการใช้ Cybernetic brain augmenter ชิ้นส่วนของสมองที่ตัวเอกค้นเจอในศพของเคลล็อกด้วยความช่วยเหลือของ Nick Valentine (นิค วาเลนไทน์) และ Dr.Amari (ดร.อามาริ) และหลังจากที่จิตของตัวเอกออกมาจากความทรงจำของเคลล็อกแล้ว ตัวเอกก็จะได้พบกับเคลล็อกอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้ายผ่านทางเศษเสี้ยวสุดท้ายของจิตสำนึกแห่งมือปืนรับจ้างที่จะพูดคุยกับตัวเอกผ่านทางร่างกายของนิคนั่นเอง...

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ Kellogg

- มีหลายคนเข้าใจผิดว่าเคลล็อกคือซินท์ แต่จริงๆแล้วเขาเป็นไซบอร์กที่เป็นมนุษย์มาก่อนและถูกดัดแลงร่างกายให้มีส่วนหนึ่งเป็นเครื่องจักรต่างหาก

- เคลล็อกเป็นหนึ่งในตัวละครที่เป็นฝ่ายศัตรูคนหนึ่งที่แข็งแกร่งมากๆ เพราะเขาจะมีค่าของเลือดและความถึกในระดับที่สูงพอๆกับตัวละครที่เป็น Companion ของตัวเอกเลยทีเดียว

- ในการต่อสู้ เคลล็อกสามารถที่จะใช้ Stealth Boy ในการล่องหนและหายตัวได้ อีกทั้งเขายังมีความสามารถที่จะรักษาบาดแผลและฮีลเลือดให้แก่ตัวของเขาเองได้ด้วย

- อีกทั้งเคลล็อกยังสามารถที่จะใช้ระเบิด Grenades ในการโจมตีได้ด้วย และถ้าเขาโจมตีด้วยการขว้างระเบิดเมื่อไหร่ก็เตรียมตัวหนีได้เลย เพราะเขาสามารถขว้างระเบิดโจมตีได้ทีละหลายๆลูกด้วย

- ถ้าหากว่าผู้เล่นมีอาวุธที่มีพลังโจมตีที่สูงพอ เคลล็อกสามารถถูกฆ่าตายได้โดยง่ายก่อนที่เขาจะทันได้ใช้ Stealth Boy หรือไอเท็มยาในการฮีลเลือดของตัวเองซะอีก

- ประวัติในอดีตของเคลล็อกนั้นมีการเชื่อมโยงไปยังสถานที่ๆเคยปรากฏในเกมซีรีย์ Fallout มากมาย และโดยส่วนมากจะเป็นสถานที่ๆปรากฏในทางทิศตะวันตก เช่น the Hub , the New California Republic และ the Shi

- ในเนื้อเรื่องของเควส Dangerous Minds ตัวเอกจะสามารถเข้าถึงความทรงจำของเคลล็อกได้โดยการใช้ร่างกายของนิค วาเลนไทน์เป็นสื่อกลาง และเมื่อเควสจบลง นิคจะพูดกับตัวเอกออกมาเป็นน้ำเสียงของเคลล็อกว่า "ฉันน่าจะฆ่าแกซะ ในตอนที่ฉันมีโอกาสนะ" ด้วยน้ำเสียงที่ขบขันเป็นเชิงว่าไม่ได้พูดจริง และดูเหมือนว่านิคเองก็จะไม่รู้ตัวเลยว่าเขาพูดอะไรแบบนี้ออกมา และเมื่อตัวเอกลองสอบถามนิคในเรื่องนี้ เขาก็จะบอกว่าดร.อามารีเคยบอกกับเขาเหมือนกันว่าหลังจากที่นิคทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้แล้ว บางส่วนของความทรงจำของเคลล็อกก็อาจจะยังอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆเหมือนกัน

- ตัวเกมจะยังคงแสดงให้เห็นว่า เคลล็อกเองก็ยังมีด้านที่จิตใจดีและยังคงมีเมตตาอยู่เหมือนกัน ครั้งแรกคือในตอนที่เคลล็อกพบกับตัวเอก ถึงแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็จะแสดงความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อตัวเอก อีกทั้งเขายังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอกด้วย (บทสนทนาตรงนี้จะมีขึ้นมาก็ต่อเมื่อผู้เล่นตอบคำถามได้ถูกต้องตามบทเท่านั้น) และความเห็นใจของเคลล็อกครั้งที่ 2 จะแสดงให้เห็นอีกครั้งก็ในระหว่างการพูดบรรยายของเขาในความทรงจำของเขาเอง ในช่วงที่เคลล็อกพลั้งมือฆ่าเนท/นอร่าไปแล้ว และอีกครั้งก็คือในตอนที่เคลล็อกต้องอาศัยอยู่กับซินท์เด็กน้อยณอน ถึงแม้มันจะเป็นหน้าที่แต่ความทรงจำในช่วงนี้ก็ทำให้เคลล็อกหวนกลับไปนึกถึงชีวิตในวัยเด็กของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง และเขาจะบอกว่าชีวิตของเขาคงจะดีกว่านี้ถ้าคนในครอบครัวของเขายังมีชีวิตอยู่

- Father หรือฌอนตัวจริงนั้นไม่เคยยกโทษและให้อภัยในสิ่งที่เคลล็อกได้ทำการสังการพ่อ/แม่ของเขาเลยได้เลย และฟาเธอร์เองก็จะแปลกใจด้วย ถ้าตัวเอกมีท่าทีที่สงสารหรือเห็นใจเคลล็อก

- จากคำพูดของ Deacon (ดีค่อน) ก็ทำให้ทราบว่า ฝ่าย The Railroad นั้นรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเคลล็อกดี และ Railroad ก็นับเขาเป็นหนึ่งในศัตรูตัวฉกาจด้วย นี่ก็แสดงให้เห็นว่า Railroad เองก็เคยมีแผนที่จะกำจัดเคลล็อกด้วยเช่นกัน