FALLOUT 4 : ข้อมูลและประวัติของ Father


ข้อมูลและประวัติของ Father

มีสปอย : ข้อมูลของตัวละคร และเนื้อหาของเกม เราแนะนำก่อนนะคะว่า คนที่ยังเล่นเควสเนื้อเรื่องไม่จบและไม่อยากเจอสปอยให้ข้ามโพสต์นี้ไปเลยนะคะ เพราะโพวต์นี้สปอยฉากจบแบบโดยตรงเลยเด้อ

Shaun (ณอน) หรืออีกชื่อที่รู้จักกันในนามของ Father (ฟาเธอร์) เขาเป็นลูกชายของตัวเอก อีกทั้งยังเป็นผู้นำของฝ่าย The Institute ในปี ค.ศ. 2287 และเขาก็ยังเป็นศัตรูระดับหัวหน้าใหญ่ของตัวเอกคนหนึ่งในเกม Fallout 4 ถ้าหากว่าผู้เล่นไม่ได้เลือกที่จะเข้าข้างเขาในตอนท้าย

เด็กน้อยณอนยังมีอายุไม่ถึง 1 ขวบดีเลยในเดือนตุลาคมของปี ค.ศ. 2077 จนกระทั่งวันที่ 23 ตุลาคม ในปีเดียวกัน บ้านเมืองก็ได้เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น พ่อแม่ของเขาจึงพาเขาหลบหนีภัยสงครามไปยังที่ Vault 111 ที่หลบภัยทางสงครามที่อยู่ใกล้เคียงในระแวกบ้านได้ทันก่อนที่ระเบิดนิวเคลียร์จะถูกยิงลงมายังเขต The Commonwealth

และด้วยความที่พวกเหล่าผู้รอดชีวิตนั้นไม่ทราบถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของ Vault ณอนและพ่อแม่ของเขาจึงถูกแช่แข็งให้หลับไป จนเวลาผ่านล่วงเลยไปเป็นเวลานานถึง 6 เดือนหลังจากที่พวกเขาถูกแช่แข็ง ภายใน Vault 111 ก็ได้เกิดการจลาจลระหว่างเจ้าหน้าที่ของ Vault 111 ขึ้น จนทำให้เจ้าหน้าที่บางส่วนนั้นล้มตายและบางส่วนก็ได้หนีหายออกไปจาก Vault 111 จนหมด ปล่อยให้ชาวบ้านที่ถูกแช่แข็งไว้ยังคงอยู่ในนั้น ไม่ปล่อยพวกเขาออกมาและแจ้งกับพวกเขาในเรื่องใดๆเลย

หลังจากที่เกิดเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทอดทิ้ง Vault 111 ไปแล้ว ผู้เข้าร่วมห้องนิรภัยที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ในระบบแช่แข็ง ก็ยังคงไม่ถูกผู้ใดรบกวนจนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปถึง 150 ปี และในตอนนี้เองที่ฝ่าย The Institute ได้หมดหวังในเรื่องที่พวกเขาต้องการรหัสทางพันธุกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสารรังสีเลยเพื่อเอามาใช้สำหรับโครงการสร้าง Synth the Third Generation หรือโครงการสร้างซินท์รุ่นที่ 3 ที่มีความสามารถทัดเทียมกับมนุษย์ขึ้นมาให้ได้ แต่ทว่าสิ่งที่เขามีอยู่มันยังไม่ดีพอ 

จนทำให้วันหนึ่ง Institute ได้ค้นพบ Vault 111 เข้า และก็ได้พบกับณอน เด็กทารกน้อยที่เป็นคนจากยุคก่อนสงคราม และเป็นบุคคลที่มีความสมบูรณ์แบบในเรื่องของ DNA อย่างที่พวกเขาต้องการ ซึ่งก็แน่นอนว่า Institute ก็มีแผนที่จะรับตัวหนูน้อยณอนมาใช้ในการทดลองเร็วๆนี้


จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2227 ฝ่าย Institute ได้ส่งมือปืนรับจ้างชั้นเยี่ยมคนหนึ่งของพวกเขาที่มีนามว่า Conrad Kellogg (คอนราด เคลล็อกก์) ให้ไปยังที่ Vault 111 พร้อมๆกับนักวิทยาศาสตร์ของ Institute อีก 2 คน เพื่อที่จะรับตัวของณอนมา ซึ่งเคลล็อกก์เองก็ได้พบว่าพ่อ/แม่คนหนึ่งของเด็กน้อยณอนกำลังอุ้มเขาไว้อยู่ แต่ทว่าพ่อ/แม่ที่อุ้มตัวเด็กน้อยเอาไว้อยู่นั้นไม่เต็มใจที่จะส่งลูกของตนให้แก่คนแปลกหน้า และเขาก็ได้เริ่มต่อต้านเคลล็อกก์ จนทำให้เคลล็อกก์เกิดน้ำโหขึ้นและยิงปืนใส่พ่อ/แม่ที่อุ้มเด็กน้อยณอนเอาไว้จนเสียชีวิตทันที

เมื่อเคลล็อกก์ได้ในสิ่งที่เป็นเป้าหมายของงานมาอยู่ในมือแล้ว เขาและนักวิทยาศาสตร์ของ Institute ก็ได้ปล่อยให้ผู้รอดชีวิตที่เป็นชาวบ้านคนอื่นๆยังคงอยู่ในระบบแช่แข็ง ซ้ำร้ายยังปิดระบบสนับสนุนการช่วยชีวิตของตู้แช่แข็งของชาวบ้านคนอื่นๆยกเว้นของตัวเอกลงจนหมด จนทำให้ชาวบ้านเหล่านั้นเสียชีวิตลง เหลือเพียงแค่ตัวเอกคนเดียวที่รอดชีวิต และต่อมา ตัวเอกก็ได้กลายเป็นที่รู้จักกันในฐานะของผู้ที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากใน Vault 111 และได้ออกมาจาก Vault ได้ในปี ค.ศ. 2287


หลังจากที่ถูกลักพาตัวไป ณอนได้ถูกเลี้ยงดูขึ้นมาโดย Institute และภายหลังเขาก็ได้ชื่อเป็น "Father" เพราะว่า DNA ของเขานั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญในการใช้สร้างซินท์รุ่นที่ 3 นั่นเอง และในเวลานั้นเขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการของฝ่าย Institute และเมื่อตัวเอกหาเขาจนเจอแล้ว ตัวเอกก็สามารถที่จะเลือกว่าจะรับสืบทอดหน้าที่ของผู้นำต่อ หรือเลือกที่จะไม่เข้าข้างเขาก็ได้เช่นกัน

ฌอนมีความมั่นใจอย่างแน่วแน่ว่า Institute นั้นเป็นความหวังเดียวของมนุษยชาติ และพยายามที่จะโน้มน้าวใจให้ตัวเอกเชื่อในเรื่องนี้ด้วย และณอนก็ได้ให้ตัวเอกสามารถเข้าถึงใน Institute ได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังแนะนำเขาให้รู้จักกับบุคลากรคนอื่นๆที่เป็นคนสำคัญใน Institute ด้วย และณอนเองก็ไว้ใจในตัวเอกมากถึงขนาดให้งานแก่ตัวเอกเพื่อค้นหาและตามหาซินท์ที่หลบหนีไปให้กลับคืนมา

แต่ณอนก็ยังไม่เชื่อมั่นกับความเป็นไปของมนุษย์ที่อยู่บนพื้นโลก เพราะเขากลัวว่าสักวันหนึ่ง จะมีภัยอันตรายจาก The Commonwealth คุกคามมายัง Institute และในท้ายที่สุด ณอนก็มีความปรารถนาที่จะให้มนุษยชาติใช้ชีวิตอยู่ในใต้ดินต่อไป เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่เดียวที่เขาคิดว่ามันปลอดภัยที่สุดที่ไม่ต้องไปพบเจอกับสารรังสี , พวกกลายพันธ์ หรืออันตรายต่างๆที่อยู่บนพื้นโลกอีกต่อไป

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ถึงณอนจะมีความเชื่อแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้บุคคลากรคนอื่นๆใน Institute ปฏิบัติตามความเชื่อส่วนบุคคลของเขา และในทางกลับกัน มุมมองของณอนที่มีต่อผู้คนบนพื้นโลกก็ไม่ได้แย่เสมอไป เขาไม่ได้แค่ให้โอกาสในการเปิดรับสมัครบุคคลที่มีพรสวรรค์เข้ามาทำงานยัง Institute เท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาได้รับตำแหน่งและหน้าที่การงานในระดับที่สูงอีกด้วย เฉกเช่นเดียวกับ Madison Li (เมดิสัน ลี) ที่เธอเป็นคนบนพื้นโลก แต่ณอนก็ยังให้โอกาสเธอได้เข้ามาทำงานใน Institute

และนอกจากนี้ ดูเหมือนว่าณอนจะไม่ว่าอะไรกับท่าทีของตัวเอก ถ้าหากว่าตัวเอกนั้นไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาเชื่อและกับจุดยืนของเขา (ตราบใดที่สิ่งที่ตัวเอกทำนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อ Institute) และยังคงสนับสนุนให้ตัวเอกขึ้นเป็นผู้สืบทอดของ Institute ต่อจากเขาตราบที่ตัวเอกนั้นยังคงมีความภักดีต่อ Institute และในเนื้อเรื่องของเควส Nuclear Family ณอนจะบอกว่า นอกจากตัวเอกแล้ว เขาไม่เชื่อว่าคนอื่นๆจะมีความสามารถที่จะควบคุม Institute ได้ดีพอ

ในชีวิตของเขา ณอนถูกเลี้ยงดูมาโดย Institute ให้ทำหน้าที่เป็นตัวทดลองมาตลอด แทนที่จะได้รับความรับจากพ่อแม่เหมือนเด็กทั่วๆไป จุดนี้เลยทำให้ณอนโตมากลายเป็นคนที่ค่อนข้างเป็นคนเย็นชา และไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเหตุการณ์อะไรทั้งสิ้น และดูเหมือนว่าเขาจะไม่แยแสกับการที่พ่อ/แม่ของเขาที่ปกป้องเขาจนตัวเองต้องตายเลย และเขาก็คิดมาตลอดว่าการที่พ่อ/แม่ของตัวเองนั้นถูกเคลล็อกก์ฆ่าตายนั้น มันเป็น "อุบัติเหตุ" จนทำให้ตัวเอกอาจจะโกรธได้ถ้าหากว่าได้รับรู้ความคิดเห็นนี้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ณอนจะไม่แยแสต่อการตายของพ่อ/แม่ของเขา แต่เขาก็ไม่อาจจะให้อภัยเคลล็อกก์ที่เป็นคนฆ่าพ่อ/แม่ของเขาได้เลย และเขาจะแปลกใจด้วยถ้าหากว่าตัวเอกนั้นให้อภัยเคลล็อกก์

แต่ในบางครั้งณอนนั้นก็ไม่ได้นิสัยเย็นชาไปจนหมด เขายังคงแสดงความเมตตาของเขาออกมาบ้าง เช่น ณอนจะพูดแสดงความเสียใจกับตัวเอก ในตอนที่ตัวเอกทำลายฝ่าย The Railroad ได้ก่อนที่ณอนจะออกคำสั่ง

นอกจากนี้ การที่ตัวเอกตื่นขึ้นมาจากระบบแช่แข็ง นั่นไม่ได้เป็นเพราะความผิดพลาดของระบบแช่แข็งของ Vault 111 ที่ตัวเอกเคยเข้าใจ แต่ทว่าเป็นเพราะณอนได้ใช้อำนาจของเขาในการปลุกตัวเอกให้ตื่นจากระบบแช่แข็งต่างหาก

แต่ในภายหลัง ณอนได้เปิดเผยกับตัวเอกว่าเขานั้นเป็นโรคมะเร็งและกำลังจะเสียชีวิตลงในไม่ช้า ซึ่งเขาก็อยากให้ตัวเอกขึ้นมารับสืบทอดหน้าที่ผู้นำของ Institute ต่อจากเขา และนั่นเองก็เป็นความปรารถนาเพียงอย่างเดียวของณอนด้วย


ในระหว่างฉากจบของฝ่าย Minutemen/Brotherhood of Steel/Railroad ที่ตัวเอกจะต้องบุกไปทำลาย Institute ตัวเอกก็จะได้พบณอนนอนอยู่ที่เตียงของเขา และในตอนนั้นเขาก็มีความคิดที่ฝังใจเลยว่า การที่ตัวเอกเลือกที่จะทำลาย Institute นั้นเป็นความคิดที่ผิดพลาดมาก และก็ต่อต้านความคิดของตัวเอกทุกประการ ซึ่งในฉากนั้นผู้เล่นก็ยังสามารถพูดคุยโน้มน้าวใจให้เขายอมให้รหัสในการเข้าถึงระบบการควบคุมการทำงานของผู้รักษาความปลอดภัยที่เป็นซินท์ได้ โดยการใช้สกิล Charisma ระดับง่าย และหลังจากนั้นณอนจะไล่ให้ตัวเองทิ้งเขาไปและไม่ต้องสนใจเขา เพราะยังไงความตายก็เข้ามาหาเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะตายด้วยโรคมะเร็ง หรือตายเพราะโดนระเบิดไปพร้อมๆกับ Institute


และถ้าหากในตอนท้ายผู้เล่นได้พาหนูน้อยณอนที่เป็นซินท์เด็กให้ออกมาจาก Institute ด้วย ตัวเอกก็จะได้รับเทป Holodisk เทปหนึ่งจากหนูน้อยณอน ซึ่งในนั้นเป็นเสียงของฟาเธอร์ที่อัดคำพูดถึงตัวเอกไว้ ซึ่งหนูน้อยณอนก็จะบอกกับตัวเอกว่า "ผมไม่เคยเอาเทปนี้มาฟังเลย ดังนั้นผมก็เลยไม่รู้ว่าในเทปนี้มันมีอะไรบ้าง แต่ผมคิดว่ามันคงต้องสำคัญมากแน่ๆเลยล่ะ"

และก่อนที่ซินท์หนูน้อยณอนจะถูกช่วยให้ออกมาจาก Institute เขาได้ถูกฟาเธอร์เขียนโปรแกรมให้ใหม่ ให้เขาเชื่อว่าตัวเอกนั้นคือพ่อ/แม่ของเขาจริงๆ ซึ่งในตอนแรกที่ตัวเอกได้เจอกับซินท์ณอนเด็กนี้ ตัวเอกก็ได้เชื่อจริงๆว่าซินท์เด็กคนนี้คนคือลูกชายของเขาที่ถูกลักพาตัวไปจริงๆ จนทำให้ซินท์เด็กสับสน และตกใจจนร้องขอความช่วยเหลือ

ส่วนเหตุผลที่ซินท์ณอนเด็กถูกปรับความทรงจำให้เปลี่ยนไปก็ได้ถูกอธิบายโดยณอนตัวจริงในเทป Holodisk ว่า "ผมจะขอให้พ่อ/แม่ให้โอกาสแก่เด็กคนนี้หน่อย โอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งและได้เห็นอนาคตใหม่ของ the Commonwealth"


หมายเหตุ

- เปลนอนของณอนในตอนเด็กจะเล่นเพลง Baby Steps ที่เป็นเพลงที่มาจาก Fallout 3 ด้วย

- ตามที่ Todd Howard ได้กล่าวเอาไว้ ว่าลักษณะของณอนที่ปรากฏในเกมนั้นจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของตัวเอกของผู้เล่น คล้ายกับตัวละคร James ที่รูปร่างของเขาจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของ Lone Wanderer ที่ปรากฏใน Fallout 3 แต่ในความเป็นจริง จะมีแค่สีผิวและสีตาของฌอนเท่านั้นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตรงกับลักษณะของพ่อแม่ของเขา เพราะณอนตอนโตที่ผู้เล่นพบเขาใน Institute จะมีทรงผม , ทรงเครา และสีผมที่เหมือนกันหมด แต่โทนสีผิวของเขาจะผสมผสานกันระหว่างตัวเอกชายและตัวเอกหญิง ส่วนสีตาของณอนนั้นเขาจะได้ของตัวเอกที่ผู้เล่นเลือกมา และจะได้ทรงคิ้วและโครงหน้ามาจากตัวละครหญิง แม้ว่าเธอจะไม่ได้ถูกผู้เล่นเลือกเล่นเป็นเธอก็ตาม

- หนังสือเด็กที่ชื่อว่า You're SPECIAL! ผู้เล่นจะสามารถพบมันได้ที่ห้องนอนของณอนในบ้านของตัวเอก ทั้งก่อนและหลังเกิดสงครามนิวเคลียร์ ซึ่งถ้าหากผู้เล่นไปเก็บมาอ่านก็จะทำให้ได้แต้มเอาไว้ใช้อัพค่าสเตตัส SPECIAL ได้ฟรีๆถึง 1 แต้ม

- ในฉากแรกก่อนที่จะเกิดสงคราม ช่วงที่คนรักของตัวเอกพูดชวนตัวเอกให้ไปเที่ยวที่สวนสาธารณะ ถ้าหากว่าผู้เล่นเล่นเป็นตัวเอกหญิงแล้วเลือกที่จะตอบคำถามแบบประชดกับสามีไป ก็จะทำให้ทราบว่าตัวเอกหญิงเธอได้ตั้งท้องหนูณอนมาในตอนที่เขาทั้งสองไป YES กันที่สวนสาธารณะ

- ในฉากจบแบบ Institute Ending จะมีป้ายหลุมศพของณอนปรากฏอยู่ที่หน้าห้องทำงานของแผนก Robotics ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไปกดสำรวจก็จะทำให้ตัวเอกพูดออกมาว่า "ลาก่อนนะ ณอน"

- ณอนสามารถโดนผู้เล่นโจมตีใส่ได้ และเขาก็จะไม่กลายเป็นศัตรูกับตัวเอก (ถ้าพี่แกไม่โดนตีจนตายก่อนนะ)

- ณอนสามารถถูกฆ่าได้ทันทีหลังจากที่ผู้เล่นพบเขาในครั้งแรก และการทำแบบนี้ก็จะทำให้ผู้เล่นกลายเป็นศัตรูหลักของฝ่าย Institute ทันที

- ณอนเป็นหนึ่งในตัวละครที่ถูกวางบทให้ตายแน่นอน โดยที่เขาจะไม่รอดชีวิตเลย ไม่ว่าจะในฉากจบหรือการกระทำของผู้เล่นในแบบใดก็แล้วแต่

แนะนำ

- ข้อมูลของซินท์ณอนในวัยเด็ก >> จิ้ม <<

ความคิดเห็น

  1. ติดตามมาสักพักหนึ่งแล้วสรุปได้ค่อนข้างดีเลยขอรีเควสประวัติของhancockได้ไหมครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จัดให้เลยค่ะ http://danterinri.blogspot.com/2017/09/fallout-4-john-hancock.html

      ลบ
  2. ติดตามอ่านมาพักนึกครับ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกฝ่ายไหนดีแนะนำทีครับ
    อยากรู้ว่าถ้าเลือก Institute แล้วคนที่ตามเรา piper หรือพวก minuteman ที่ sanctuary จะต่อต้านเราไหม
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ในเกมภาคนี้ บอกก่อนว่าจะมีฉากจบทั้งหมด 4 แบบนะคะ จบแบบ Institute จะเป็นฉากจบที่แตกต่างจากจบแบบอื่นๆที่สุด

      ส่วนเรื่องฉากจบ เราแนะนำได้แค่ว่า จบแบบ Minuteman นี่จะเป็นจบที่ดีที่สุด รองลงมาก็จบแบบ BOS และ Railroad ดังนั้นก็เลือกเอาที่ท่านชอบฝ่ายไหนได้เลยค่ะ ชอบใ่ายไหนก็จบแบบฝ่ายนั้น เพราะฝ่ายที่ไม่ได้เลือก มีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะโดนทำลาย

      ส่วนจบแบบ Institute จะไม่ทำให้ผู้ติดตามไม่พอใจนะคะ เขาแค่จะมีบทสนทนาบ่นๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่มำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนไปค่ะ

      ลบ
  3. ร้องไห้แปป เราว่า INSTITUTE นี้เละคือทางที่ถูกต้อง ภาค 5 ตัวเอกภาคนี้ต้องอยู่ INSTITUTE

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

Recommend