FALLOUT 4 : เรื่องราวแบบย่อของภาค Far Harbor P.1


เรื่องราวแบบย่อของภาค Far Harbor + บทสรุป P.1

มีสปอย : เนื้อเรื่องและภารกิจของเควส


Far From Home

หลังจากที่ทำเควสเนื้อเรื่อง Getting a Clue ในภาคหลักจนจบแล้ว ก็จะมีคลื่นวิทยุคลื่นใหม่ที่มาจากสำนักงานนักสืบของ Nick Valentine (นิค วาเลนไทน์) ปรากฏขึ้นมาใน Pip-Boy ของตัวเอก ซึ่งชื่อของคลื่นวิทยุคลื่นนั้นจะมีชื่อว่า Valentine's Detective Agency และในคลื่นวิทยุนั้นจะเป็นการส่งข้อความมาจาก Ellie Perkins (เอลลี่ย์ เพอร์กินส์) เลขาของนิค ที่เธอจะรายงานให้ตัวเอกมาพบเธอยังที่สำนักงานของนิคในเมือง Diamond City ที เพราะว่ามีคดีใหม่เข้ามา และเมื่อผู้เล่นเดินทางไปยังที่สำนักงานของนิคแล้ว เอลลี่ย์ก็จะบอกกับตัวเอกว่า คดีใหม่ในคราวนี้นั้นมีผู้ว่าจ้างเป็น Kenji Nakano (เคนจิ นากาโนะ) บุคคลที่เป็นชาวประมงที่อาศัยอยู่กับครอบครัวสัญชาติญี่ปุ่น และดูเหมือนว่าคดีที่เคนจิต้องการจะจ้างนักสืบในคราวนี้นั้นจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกสาวของเคนจิเอง

หรือในอีกกรณีหนึ่ง ผู้เล่นก็อาจจะได้รับเควสนี้มาจากการค้นหาและพบเจอสถานที่ๆชื่อว่า Nakano residence (จะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของค่าย Coastal Cottage) ผ่านการเดินสำรวจด้วยตัวเองเลยก็ได้ แต่การรับเควสด้วยการไปยังที่บ้านของเคนจิโดยที่ไม่ผ่านสำนักงานนักสืบนั้นจะมีจุดแตกต่างกันไปอยู่เล็กน้อยค่ะ คือผู้เล่นจะไม่ได้ค่าตอบแทนหลังจากที่จบเควสนนี้ เพราะเคนจิรู้ได้ว่าตัวเอกไม่ได้มาจากสำนักงานนักสืบที่เขาว่าจ้างนั่นเอง (ประมาณว่าจุ้นเอง เลยไม่ให้เงินมันซะเลย)

ซึ่งการรับเควสมาทั้ง 2 วิธีนี้ก็จะทำให้ผู้เล่นได้พบกับจุดหมายเดียวกัน ซึ่งนั่นก็คือการที่ต้องเดินทางไปยังบ้านนากาโนะที่อยู่ทางตอนเหนือของเขต the Commonwealth เพื่อพบกับเคนจิและ Rei Nakano (เรย์ นากาโนะ) ภรรยาของเขา และจากการคุยสอบถามพวกเขาในเรื่องเกี่ยวกับคดี ก็จะได้ทราบว่าลูกสาวของพวกเขา Kasumi Nakano (คาซึมิ นากาโนะ) ได้หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงต้องการให้ตัวเอกช่วยตามหาเธอ และถ้าหากเป็นไปได้ก็อยากให้พาเธอกลับคืนมาอย่างปลอดภัยด้วย

จากบทสนทนาตรงนี้ให้ผู้เล่นลองใช้สกิล Charisma คุยสอบถามกับพวกเขาดู ก็จะได้ใจความว่าให้ลองไปสำรวจอู่เก็บเรือที่อยู่ใกล้ๆกับบ้านดูเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ให้สำรวจดูรอบๆอู่ ก็จะพบว่าจุดที่น่าสงสัยที่สุดคงจะเป็นตู้เซฟที่ล็อกด้วยความยากระดับ Expert ที่วางอยู่ที่พื้น ซึ่งตรงนี้ถ้าผู้เล่นไม่สามารถไขล็อกเองได้ ก็ให้ลองไปสำรวจที่กรอบรูปภาพที่วางอยู่แบบแปลกๆบนโต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้ๆกัน ก็จะพบว่ามีสวิตส์ลับที่สามารถทำให้เปิดล็อกตู้เซฟได้อยู่ ซึ่งภายในตู้เซฟก็จะมีเทปที่ชื่อว่า Kasumi's final holotape ซึ่งเนื้อหาภายในเทปนั้นคาซึมิเธอจะบอกความจริงแบบหมดเปลือกเลย ว่าไม่กี่วันก่อนหน้าที่เธอจะหายไปนั้น คาซึมิได้ทำการติดต่อกับอาณานิคมที่เรียกว่า Acadia ของเหล่า Synths (ซินท์) ที่อยู่บนเกาะทางตอนเหนือที่ชื่อว่า Far Harbor เข้าได้โดยบังเอิญ และการปรากฏตัวของพวกเขาเหล่านั้นทำให้เธอต้องตั้งคำถามแก่ตัวเองว่า "เธอนั้นคือมนุษย์จริงๆอย่างที่เธอเคยเป็นหรือไม่" จนในที่สุดคาซึมิก็ไม่อาจจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้อีกต่อไป เธอจึงได้หนีออกจากบ้านและไปยังที่ Far Harbor เพื่อค้นหาความจริงของตัวเอง

เมื่อได้ทราบสาเหตุที่คาซึมิหายไปแล้ว ก็ให้ผู้เล่นไปแจ้งข่าวกับเคนจิได้เลย แล้วเขาจะเรือแก่ตัวเอกมาหนึ่งลำเพื่อที่จะให้ตัวเอกนั้นสามารถเดินทางไปยัง Far Harbor เพื่อค้นหาคาซึมิ ลูกสาวของพวกเขาให้กลับมาบ้านแบบปลอดภัยให้จงได้

หลังจากที่จบเควสนี้แล้วก็จะมีเควสทางเลือกของฝ่ายต่างๆในภาคหลักขึ้นมาให้เลือกได้ 3 ฝ่ายค่ะ (ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่กันครบอ่ะนะ) ซึ่งก็คือฝ่าย The Institute , The Brotherhood of Steel และ The Railroad ซึ่งการแจ้งแต่ละฝ่ายในภาคหลักนี้ ก็จะทำให้ได้เควสตัวเลือกในทางจบแบบอื่นๆขึ้นมาดังนี้ค่ะ

1.) The Institute : ไปแจ้งกับพวกนี้แล้วจะได้เควส Forbidden Knowledge มา

จบอันนี้คือเดินตามวิธีของ Institute เลยค่ะ หลังจากที่ตัวเอกไปแจ้ง Institute แล้ว เขาก็จะส่งหน่วยตามเก็บซินท์ให้ไปยังที่ Acadia และถล่มเก็บซินท์ให้กลับมาที่ Institute หมดเลย จบแบบนี้จะถือว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

2.) The Brotherhood of Steel : ไปแจ้งกับพวกนี้แล้วจะได้เควส Search and Destroy

จบอันนี้คือเป็นวิธีแบบ Brotherhood of Steel เลย หลังจากที่ตัวเอกไปแจ้งกับฝ่าย BOS ที่อยู่ใน The Commonwealth เขาจะส่งทีมงานพบซินท์ไปถล่มฆ่าทุกคนใน Acadia และแน่นอนว่าจบแบบนี้ทุกคนใน Acadia จะตายกันหมดยกบ้าน

3.) The Railroad : ให้ไปแจ้งแก่สมาชิกของ Railroad ที่ชื่อว่า Boxer

ตรงนี้ก็จะไม่ได้เควสอะไรใหม่ๆ เพราะฝ่าย Railroad เป็นฝ่ายที่เป็นมิตรกับซินท์อยู่แล้ว การรายงานของตัวเอกตรงนี้ก็จะเป็นการแจ้งว่าฝ่าย Railroad นั้นยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับฝ่าย Acadia อยู่แล้ว

ตรงนี้เราแนะนำว่าให้ผู้เล่นแจ้งข่าวแค่ฝ่าย Railroad ก็พอค่ะ ส่วนฝ่าย Institute และ BOS ถ้าผู้เล่นไม่ต้องการจะจบแบบพวกเขาก็ไม่ต้องไปแจ้งค่ะ เพราะไม่งั้นพอไปแจ้งแล้วจะได้เควสถล่มมา และพอเล่นจบแบบอื่นๆในภาค Far Harbor ไปแล้ว เควสถล่มจากภาคหลักมันจะไม่หายไปจนกว่าผู้เล่นจะทำเควสให้จบค่ะ


Walk in the Park

เมื่อเรือของตัวเอกมาถึงยังเกาะ Far Harbor ตัวเอกก็จะได้พบกับคนท้องถิ่น 2 คนที่มีชื่อว่า Captain Avery (กัปตัน เอเวอรี่) หญิงแก่ที่เป็นผู้นำของท่าเรือแห่งนี้ และชายขายอาวุธผู้ที่ดูไม่เป็นมิตร Allen Lee (อัลเลน ลี) ซึ่งเอเวอรี่จะถามกับตัวเอกด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรว่า คนจากแผ่นดินใหญ่เข้ามาทำอะไรในที่แห่งนี้ ตัวเอกเลยบอกไปว่าเขากำลังตามหาหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่าคาซึมิ คุณป้าเอเวอรี่ก็จะบอกว่าเขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนั้น เพราะบางทีเธออาจจะไม่ได้มายังเกาะนี้ผ่านที่ท่าเรือ Far Harbor แห่งนี้ก็ได้

แต่คุยกันได้ไม่นาน เจ๊ The Mariner ช่างซ่อมหญิงของท่าเรือก็จะส่งเสียงเตือนชาวบ้านคนอื่นๆที่อยู่ในท่าเรือ เพราะว่าได้มีศัตรูที่เป็นสัตว์กลายพันธ์นั้นบุกเข้ามาที่ท่าเรือแล้ว และเอเวอรี่จะขอให้ตัวเอกนั้นช่วยคุ้มกันท่าเรือด้วยอีกแรง ให้ผู้เล่นกำจัดศัตรูที่เป็น Gulpers และ Anglers ให้หมด โดยที่มันจะบุกเข้ามากันเป็นชุดๆ (ระวังกับระเบิดที่วางอยู่หน้าประตูทางเข้าท่าเรือด้วยเด้อ)

เมื่อการต่อสู้จบลง เอเวอรี่จะขอคุยกับตัวเอกและเรียกพี่อัลเลนมาคุยด้วย โดยเธอจะพูดถึงเกี่ยวกับหมอกที่มีอยู่เต็มบริเวณโดยรอบเกาะ ที่หมอกพวกนี้จะทำให้พวกสัตว์กลายพันธ์ที่อยู่บนเกาะนั้นดุร้ายและแข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งอัลเลนเองก็เชื่อว่าที่หมอกบ้าๆพวกนี้เกิดขึ้นมาได้เพราะพวก Children of Atom เป็นคนทำออกมา และเอเวอรี่ก็จะแนะนำให้ตัวเอกลองไปพบกับ Old Longfellow (ลองเฟลโล่) ชาวเมืองคนหนึ่งของ Far Harbor ที่มีฝีมือในการต่อสู้เข้าขั้นฉมัง และเขาเองก็ยังมีความรู้ในเรื่องของเกาะและการเดินทางบนเกาะเป็นอย่างดี ซึ่งผู้เล่นสามารถไปพบเขาที่บาร์ The Last Plank ที่ตั้งอยู่ในท่าเรือ เพื่อขอให้เขาเข้ามาเป็นคู่หูร่วมเดินทางคนใหม่ได้ด้วย และเขาคนนี้ก็เป็นคนเดียวที่สามารถเดินทางพาตัวเอกให้ไปยัง Acadia ได้อย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน

อีกทั้งเอเวอรี่ก็ได้เห็นว่าตัวเอกเป็นคนที่มีฝีมือในระดับหนึ่ง ดังนั้นเธอจะบอกตัวเอกว่าถ้าเขาว่างก็ช่วยงานคนในท่าเรือนี่ได้นะ โดยจะขึ้นเป็นเควสย่อย Living on the Edge ขึ้นมาให้ผู้เล่นทำ โดยเควสนี้จะเป็นเควสยาวที่มีตัวเลือกและทางแยกที่ให้ทำค่อนข้างมาก แต่ถ้าผู้เล่นอยากจะปลดล็อกและเป็นเจ้าของค่ายบนเกาะ Far Harbor ก็ต้องทำให้เควสจบค่ะ และพอจบเควสแล้ว เรารับประกันได้เลยค่ะว่ามีของดีให้ผู้เล่นได้เก็บแน่นอน

หลังจากที่ตัวเอกได้พบและทำความรู้จักกับลุงลองเฟลโล่ ไกด์เก่าแก่ของเกาะแห่งนี้แล้ว ลุงแกก็จะบอกว่าเขานั้นสามารถพาคนนอกอย่างตัวเองให้เดินทางผ่านในหมอกพิษนี่ได้อย่างงายดายเลยนะ ซึ่งตรงนี้ผู้เล่นสามารถเลือกตอบคำถามโดยการใช้สกิล Charisma ระดับง่ายเพื่อให้ลุงเขามาเป็นไกด์ให้ได้ นอกจากนี้การสวมชุดเกราะ Power Armor ระหว่างที่คุยกับเขาก็จะช่วยโน้มน้าวใจเขาให้เชื่อตัวเอกได้ง่ายขึ้นด้วย และเมื่อพูดคุยตกลงข้อเสนอกันได้แล้ว ลองเฟลโล่จะบอกให้ตัวเองไปทำการซื้อของเตรียมตัวให้พร้อมก่อน อาจจะเตรียมยา Rad-X , กระสุนปืน , Stimpaks และอื่นๆให้พร้อม เพราะการเดินทางในหมอกนั้นค่อนข้างโหดพอสวมควร (ตรงโต๊ะที่ลุงนั่งมีหนังสือ Islander's Almanac issue เล่มที่ 5 ให้เก็บด้วย) และเมื่อพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว ลุงลองเฟลโล่ก็จะพาตัวเอกเดินออกจากท่าเรือ และจะให้อาหารที่ชื่อว่า Mirelurk jerky แก่ตัวเองมาจำนวน 1 ไม้ เพื่อให้ตัวเอกเอาไปทานเป็นอาหารว่างระหว่างการเดินทางได้

และในขณะที่กำลังเดินทางผ่านหมอกพิษที่หนาแน่น ลุงลองเฟลโล่ก็จะพูดให้คำแนะนำทางด้านต่างๆสำหรับการดำรงชีพในเกาะนี้ให้แก่ตัวเอกด้วย จนในที่สุดลุงแกก็พาผู้เล่นให้มาถึงยัง Acadia ที่เป็นเป้าหมายแรกของตัวเอก และลุงจะบอกว่าตั้งแต่นี้ต่อไปให้ตัวเอกมาที่บ้านพักของเขาเพื่อพักผ่อนได้ตามสบาย หรือถ้าต้องการให้ลุงช่วยเหลือในด้านใดอีกก็สามารถมาคุยกับลุงได้เลย (บ้านลุงแกจะชื่อว่า Longfellow's cabin โดยจะอยู่บนเกาะเล็กๆหลังท่าเรือ Far Harbor สามารถไปได้โดยการเดินอ้อมไปทางเชื่อมที่อยู่ตรงหน้าห้าง Super Duper Mart) ตรงนี้ตัวเอกสามารถขอให้ลุงแกมาเป็นคู่หูต่อได้ หรือถ้ายังไม่รับลุงมาเดินทางต่อตอนนี้ ลุงแกจะขอแยกทางกับตัวเอกแล้วไปอยู่ยังที่บ้านของแกแทน ซึ่งตัวเอกสามารถไปคุยกับแกได้ในภายหลังค่ะ

และเมื่อจบเควสนี้แล้วก็จะเป็นการเริ่มต้นเควส Where You Belong ต่อในทันที


Where You Belong

ลองเฟลโล่ได้เดินทางพาตัวเอกมายัง Acadia หลังจากนั้นจึงได้แยกทางกันไป ตัวเอกจึงได้เข้าไปภายในอาคารและได้พบว่าที่ศูนย์รวมซินท์แห่งนี้นั้นมีผู้นำเป็นซินท์รุ่นเก่าคนหนึ่งที่ชื่อว่า DiMA (ดีม่า) เขาจะกล่าวทักทายแก่ตัวเอกและดีใจที่มีผู้เยี่ยมชมหน้าใหม่เข้ามาที่นี่ และหลังจากที่คุยสอบถามกันแล้ว ดีม่าจะยืนยันว่าคาซึมิเองก็อยู่ที่นี่จริงๆ

ถ้าผู้เล่นพานิค วาเลนไทน์ มาเป็นคู่หูด้วยในเควสนี้ ก็จะทำให้รู้ว่านิคและดีม่านั้นเป็น "พี่น้อง" กัน ซึ่งพวกเขาทั้ง 2 นั้นเป็นซินท์รุ่นแรกๆที่ถูก Institute ทดลองให้พวกเขานั้นมีความคิดที่อิสระและเป็นของตนเอง และดีม่าจะอธิบายต่อด้วยว่า เขาเป็นคนที่พานิคให้หนีออกมาจาก Institute เอง แต่ด้วยความที่เวลาผ่านมานานมาจนเกือบเป็นร้อยๆปี เลยทำให้หุ่นรุ่นเก่าที่ไม่ได้รับการดัดแปลงแบบนิคสูญเสียความทรงจำเก่าๆไปและทำให้จดจำดีม่าไม่ได้นั่นเอง

ตามคำบอกเล่าของดีม่าที่เขายืนยันแล้วว่าคาซึมินั้นอยู่ที่นี่ ตัวเอกจึงได้พบว่าคาซึมินั้นกำลังทำงานอยู่ที่ชั้นใต้ดินของ Acadia แต่ไม่ว่าจะพูดคุยกับเธออย่างไรก็ไม่เป็นผล แม้ว่าตัวเอกจะพยายามที่จะเปลี่ยนความคิดของเธอยังไง เธอก็ดันคิดว่าตัวเองเป็นซินท์จริงๆและไม่อาจกลับไปหาพ่อกับแม่ได้แล้ว

และคาซึมิจะสารภาพออกมาว่า เธอคิดว่าที่ Acadia แห่งนี้จะต้องมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ และเธอจะนำเสนอ 3 ตัวเลือกสำหรับการค้นหาความจริงของสถานที่แห่งนี้

1.) ไปพูดคุยล้วงความลับจากตัวของดีม่าเอง ข้อนี้จำเป็นต้องใช้สกิล Charismaในการตอบคำถามกับพี่แกด้วย และถ้าตอบพลาดก็จะทำให้ไม่รู้ความลับและต้องใช้หนทางอื่นเอาแทน

2.) ไปแฮ็คคอมพิวเตอร์ของ Faraday (ฟาราเดย์) ที่ชื่อว่า Faraday's terminal เพื่อค้นหาข้อมูล

3.) แอบดักฟังในการประชุมพูดคุยของพวกเขา โดยการซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของ

และไม่ว่าจะเลือกข้อใด ความลับของดีม่าก็จะถูกเปิดเผย เพราะในอดีตนั้น ดีม่าเลือกที่จะให้ซากเรือดำน้ำที่บรรทุกนิวเคลียร์ให้แก่ฝ่าย Children of Atom เพื่อให้พวกเขาเอาไปทำเป็นฐานทัพ และตอนนี้สถานที่นั้นก็มีชื่อรู้จักกันในนามว่า "The Nucleus"

อีกทั้งที่นั่นก็ยังเป็นที่ๆดีม่าเอาไว้ใช้เก็บไฟล์ความทรงจำเก่าๆของเขาเอง ซึ่งความทรงจำเก่าๆเหล่านี้ก็อาจจะทำให้พวกเด็กอะตอม Children of Atom และ คนที่ท่าเรือ Harbormen ตบดีกันและเกิดเป็นสงครามเลยก็ได้ ถ้าหากว่าพวกเขาได้เจอเข้ากับความทรงจำนี้เข้า ตอนนี้เลยมีตัวเลือกเดียวที่ตัวเอกสามารถทำได้ นั่นก็คือการไปคุยกับดีม่า หรือไม่ก็ขโมย Faraday's program ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของฟาราเดย์ ในห้องที่อยู่ทางขวาของห้องหลักที่ดีม่าอยู่

หลังจากที่ตัวเอกได้โปรแกรมมาแล้วก็ให้ไปหาคาซึมิเพื่อพูดคุยถึงในเรื่องนี้ ก็จะทำให้เธอรู้ความลับของดีม่ามากขึ้น แต่ต่อจากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับตัวเอกแล้วว่าจะค้นหาความจริงของดีม่าต่อไปไหม และเมื่อจบเควสนี้แล้วก็จะเป็นการเริ่มต้นเควส Best Left Forgotten ต่อในทันที


Best Left Forgotten

หลังจากที่ตัวเอกได้เอา Faraday's program ไปให้แก่คาซึมิ ก็จะทำให้จบเควส Where You Belong และเริ่มเควส Best Left Forgotten ในทันที

คาซึมิจะบอกว่าเธอยังคงสงสัยในตัวของดีม่าอยู่ และจะให้ตัวเอกไปค้นหาความทรงจำเก่าๆของดีม่าที่ถูกเก็บซ่อนไว้ที่ Nucleus Command Center ที่อยู่ใน The Nucleus ฐานทัพของพวกเด็กอะตอม Children of Atom อีกที ซึ่งตัวเอกก็จะต้องเดินทางไปที่นั่นโดยผ่านด่านของพวก หุ่นยนต์ , สารรังสี และปริศนามินิเกมชวนหัวร้อนนิดหน่อยๆเพื่อให้เข้าถึงความทรงจำของดีม่าได้

และหลังจากที่ตัวเอกได้ค้นพบความลับของดีม่าทั้งหมดแล้ว ก็จะทำให้ปลดล็อคพิกัดของสถานที่ต่างๆบนเกาะที่ตัวเอกควรจะไปตรวจสอบ เช่น ห้องบำรุงรักษาตัวของดีม่าที่อยู่ในโรงงานน้ำอัดลม Vim! Pop factory , สถานที่ของกุญแจ Nuclear launch key กุญแจที่จะทำให้นิวเคลียร์ในเรือดำน้ำทำงานได้อีกครั้ง ที่โรงแรม The Harbor Grand Hotel และ รหัสปิดการทำงานของกังหันลมที่ DiMA's cache

ซึ่ง 3 เป้าหมายใหม่ที่ปรากฏขึ้นมานี้ล้วนเป็นเควสที่สำคัญและนำไปสู่เส้นทางจบของภาคนี้ได้เลยค่ะ ผลของการค้นพบความลับของสถานที่ทั้ง 3 จะมีผลลับดังนี้

1.) การไปยังที่ Vim! Pop factory : จะทำให้ตัวเอกได้รู้ความจริงของกัปตันเอเวอรี่ และได้รู้ว่าเธอนั้นไม่ใช่กัปตันเอเวอรี่ตัวจริง แต่ทว่าเป็นซินท์ที่ถูกดีม่านำมาแทนที่เอเวอรี่ตัวจริง เพราะกัปตันตัวจริงนั้นได้ถูกดีม่าฆ่าตายไปนานแล้ว และในเควสนี้ ถ้าตอบไปแบบไม่ถนอมน้ำใจของกัปตัน คือเลือกที่จะเปิดเผยความจริงของเธอแก่ชาวบ้านที่ท่าเรือ ซินท์ทุกคนที่อยู่ที่ท่าเรือจะถูกฆ่าตาย อีกทั้งจะทำให้เกิดการฆ่าล้างโคตรที่ Acadia และทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นโดนฆ่าตายจนหมด

2.) การไปยังที่ The Harbor Grand Hotel : เพื่อค้นหากุญแจ Nuclear launch key จะทำให้ตัวเอกสามารถที่จะถล่มพวก Children of Atom และลบ The Nucleus ให้หายออกไปจากแผนที่ได้

3.) การไปยังที่ DiMA's cache : จะทำให้ตัวเอกได้รหัสในการปิดการทำงานของกังหันลมบนเกาะ Far Harbor มา ซึ่งการปิดกังหันลมนี้ก็จะทำให้เครื่องดูดหมอก Fog condenser ทุกเครื่องที่อยู่บนเกาะหยุดทำงาน ส่งผลให้ชาวบ้านไม่มีอะไรมาคุ้มกันพวกเขาจากความน่ากลัวของหมอกอีกต่อไป และก็ถูกโจมตีโดยพวกสัตว์กลายพันธ์ที่ดุร้ายในทันที จบแบบนี้จะทำให้ชาวบ้านที่ท่าเรือและในค่ายต่างๆบนเกาะถูกสัตว์กลายพันธ์บุกฆ่าตายจนหมด อีกทั้งจะยังทำให้ลองเฟลโล่เป็นศัตรูถาวรกับตัวเอกด้วย

และตรงนี้ก็จะเกิดเป็นเควสทางแยกขึ้นมาค่ะ ถ้าหากว่าตัวเอกได้ค้นพบความลับของดีม่าที่โรงงานน้ำอัดลม Vim! Pop factory แล้ว เควสต่อไปของเหตุการณ์นี้ที่ชื่อ The Way Life Should Be ก็จะปลดล็อกขึ้นมาให้เล่นกัน และถ้าสามารถค้นพบรหัสในการปิดการทำงานของกังหันลมได้ หรือค้นพบกุญแจ Nuclear launch key แล้ว เควสต่อไปที่ชื่อ Cleansing the Land ก็จะปรากฎมาให้ได้เล่นเป็นเควสต่อไป


ความคิดเห็น

Recommend