FALLOUT 4 : ข้อมูลและประวัติของ The Prydwen

ข้อมูลและประวัติของสถานที่ The Prydwen

มีสปอย : ข้อมูลของสถานที่

The Prydwen เป็นเรือเหาะของฝ่าย Brotherhood of Steel ที่ถูกดัดแปลงแก้ไขให้เป็นเรือเหาะรบขนาดยักษ์ ที่บินเข้ามาผ่านน่านฟ้าของเขต The Commonwealth ซึ่งเรือเหาะนี้เองก็ทำหน้าที่และบทบาทสำคัญหลายอย่างสำหรับกลุ่ม Brotherhood of Steel ทั้งการทำหน้าที่เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน Vertibird , การเป็นศูนย์บัญชาการ , เป็นคลินิกเอาไว้รักษาเหล่าทหารที่บาดเจ็บ , เป็นห้องพักส่วนตัว , เป็นโรงบำรุงรักษายุทธ์โทรปกรณ์ และยังเป็นสถานีวิจัยทางด้านต่างๆด้วย

และไม่นานนักหลังจากที่ผู้เล่นพบเจอกับมันเข้าครั้งแรกในตอนที่ออกจาก Fort Hagen ในช่วงสุดท้ายของเควส Reunions หลังจากที่มันบินเข้ามาในเขต The Commonwealth แล้วผู้เล่นจะพบมันได้อย่างใกล้ชิดอีกทีก็ที่สนามบิน Boston Airport ซึ่งมันจะถูกจอดผูกติดเอาไว้อยู่กับหอควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินบอสตัน

The Prydwen ถูกสร้างขึ้นที่ Adams Air Force Base ฐานทัพอากาศที่อยู่ในเขต Capital Wasteland (พื้นที่ใน Fallout 3) โดยการก่อสร้างมันขึ้นมานั้นต้องกินเวลาการสร้างไปถึง 6 ปี ซึ่งใน 2 ปีแรกจะใช้ไปกับการเก็บรวบรวมวัสดุที่จำเป็นในการก่อสร้าง และใช้เวลาอีก 4 ปีในการก่อสร้างจริง และในปี ค.ศ.2287 เรือเหาะลำนี้ก็มีอายุของมันมามากกว่า 5 ปีแล้ว

ตามคำบอกเล่าของ Lancer Captain Kells (กัปตันเคล) และ Elder Maxson (แม็กซัน) เรือเหาะลำนี้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4 หมื่นตัน และก่อนที่เรือเหาะลำนี้มันจะเข้ามาสู่เขต The Commonwealth แหล่งพลังงานดังเดิมที่ขับเคลื่อนเรือเหาะลำนี้ได้ถูกดัดแปลงและติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบใหม่เข้าไป ให้ไปใช้ระบบเชื้อเพลิงที่เอามาจากเรือบรรทุกเครื่องบินเก่าที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามด้วย

เรือเหาะลำนี้จะเต็มไปด้วยพลังงานจากไฮโดรเจน ตามที่ถูกระบุถึงระหว่างในเควส Airship Down และเนื่องจากลักษณะที่ติดไฟได้ง่ายของไฮโดรเจน เรือเหาะลำนี้เลยไม่ได้มีความสามารถที่จะเอาไปใช้ในการสู้รบได้ ซึ่งจุดนี้ผู้เล่นจะได้รับรู้มาจากลูกเรือที่เดินไปมาในเรือเหาะ Prydwen นั่นเอง

ทางด้านการขับเคลื่อน เรือเหาะลำนี้จะมีใบพัดแบบเครื่องยนต์ไอพ่นที่ท้ายเรือทั้งหมด 4 ใบพัด ซึ่งแต่ละใบพัดจะทำหน้าที่เป็นหางเสือ ทั้งยังมีหน้าที่ในการควบคุมระดับความสูงของเรือเหาะ และช่วยให้เรือเหาะพยุงตัวอยู่ในที่อากาศที่สูงๆได้

ลักษณะภายนอกของ The Prydwen จะแบ่งออกได้เป็นสองพื้นที่ภายนอก และสองพื้นที่ภายในร่ม ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ได้เป็น The flight deck , The command deck , The main deck , และ The forecastle

ตรงทางเดินภายนอกใต้เรือเหาะหรือที่เรียกว่า The Flight deck นั้น จะมีสายเชื่อมต่อสำหรับ Vertibird gunships ทั้งหมด 4 สาย ทำให้สามารถรับส่งผู้โดยสารระหว่างเรือเหาะกับภาคพื้นดินได้ อีกทั้งยังทำให้จอดเครื่องบิน Vertibird ไว้กับเรือเหาะได้สูงสุดถึง 4 ลำด้วย

ในพื้นที่ภายในร่ม ชั้นบนสุดหรือที่เรียกว่า The Main deck จะเป็นศูนย์รวมของพื้นที่ต่างๆ ทั้งห้องการแพทย์และพยาบาล , โรงอาหาร , ห้องซ่อมบำรุงชุดเกราะ Power Armor , พื้นที่สำหรับทำงานซ่อมและดัดแปลงอาวุธ รวมถึงร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่ในสุดของทางเดิน นอกจากนี้ยังมีบันไดที่สามารถเดินเชื่อมต่อขึ้นไปสู่ห้องพักผ่อนหรือเดินลงไปยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลก็ได้ด้วย ส่วนพื้นที่ๆอยู่รอบๆนั้นจะเป็นทางเดินสำหรับลาดตระเวน

ส่วนพื้นที่รองลงมาที่เรียกว่า The command deck หรือห้องบัญชาการนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ชั้นบนสุดจะเป็นห้องสังเกตการของแม็กซัน รองลงมาจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถออกไปยังดาดฟ้าภายนอกเรือเหาะได้ และชั้นล่างสุดที่เป็นบันไดทอดยาวลงไปจะเป็นห้องบังคับการบินที่สามารถพบเจอกัปตันเคลได้ที่นี่นั่นเอง

ส่วนพื้นที่สุดท้ายที่เรียกว่า The forecastle ก็จะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถออกไปยังพื้นที่ภายนอกของเรือเหาะได้ และพื้นที่นี้ก็จะอยู่เหนือพื้นที่โซน The command deck ด้วย

เหล่าผู้คนที่พบเจอได้ในเรือเหาะ The Prydwen

- Elder Maxson

- Lancer-Captain Kells

- Paladin Danse (หลังจากจบเควส Shadow of Steel)

- Paladin Brandis (ถ้าหากว่าชักชวนเขาให้กลับมาเข้าร่วมกับ Brotherhood ได้สำเร็จในระหว่างเควส The Lost Patrol)

- Proctor Ingram

- Proctor Teagan

- Proctor Quinlan

- Madison Li (ถ้าหากว่าชักชวนป้าแกให้กลับมาเข้าร่วมกับ Brotherhood ได้สำเร็จในระหว่างเควส From Within)

- Professor Scara (ถ้าหากว่าชักชวนเจ๊ให้มาเข้าร่วมกับ Brotherhood ได้สำเร็จในระหว่างเควส Liberty Reprimed)

- Senior Scribe Neriah

- Knight-Captain Cade

- Predictive Analytic Machine หรือ P.A.M (ผู้เล่นจะเจอเธอได้ที่เรือเหาะด้วย ถ้าหากผู้เล่นได้ทำการรีโปแกรมของเธอในระหว่างเควสถล่มฝ่าย Railroad ที่ชื่อว่า Tactical Thinking)

ของน่าสนใจที่ควรเก็บในเรือเหาะ

- ชุด Power Armor รุ่น BoS Mk.II T-60b แบบครบชุด : ได้เป็นรางวัลจากการเลื่อนยศ หลังจากที่จบเควส Shadow of Steel แล้ว

- ปืน Long range laser rifle : อยู่ในกล่องที่อยู่ในพื้นที่ The Forecastle ด้านทิศใต้

- กระสุน Mini nukes 3 ลูก : อยู่ที่พื้นที่เก็บของชั้นใต้สุดของโซน the main deck โดยกระสุนจะปรากฏให้เก็บก็ต่อเมื่อมีการขนย้ายลังกระสุน Mini nuke จาก Fort Strong armory เข้ามาสู่เรือเหาะหลังจบเควส Show No Mercy แล้วเท่านั้น 2 ลูกจะวางอยู่บนกล่อง ส่วนอีกหนึ่งลูกจะวางอยู่ที่พื้น

- ชิ้นส่วนเกราะส่วนหัวของ X-01 Power Armor Mk.I , ปืน Gauss rifle , ปืน Fat Man และกระสุน Mini nuke 2 ลูก , Fusion core และกระสุนชนิดอื่นๆอีกจำนวนมาก จะอยู่ในห้องร้านค้าของ Proctor Teagan ที่ล็อกด้วยระดับความยากแบบ Master lock แต่ของทั้งหมดนี้จะขึ้นสีแดงมีเจ้าของ ถ้าอยากได้ผู้เล่นจะต้องขโมยเอา (ส่วนกุญแจไขเข้าห้องนี้แบบง่ายๆจะอยู่ที่ลูกเรือคนหนึ่งที่ไว้หนวดแต่หัวเกรียน ที่ชอบเดินไปมาแถวห้องซ่อมบำรุงชุดเกราะ Power Armor ซึ่งผู้เล่นจะต้องทำการขโมยด้วยวิธี Pick pocket เอา)

- Holotape ที่ชื่อว่า Knight-Captain Cade's report : วางอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในห้องการแพทย์

- Holotape ที่ชื่อว่า C.I.T. recon report : วางอยู่ที่ห้องบังคับการบินที่กัปตันเคลอยู่ เทปจะวางอยู่ที่แผงควบคุมด้านซ้ายมือ

- Holotape ที่ชื่อว่า Personal log - 142 : วางอยู่บนโต๊ะในห้องพักของลูกเรือ

- Holotape ที่ชื่อว่า Quinlan to be deleted : วางอยู่บนตู้เก็บเอกสารด้านหลังของคอมพิวเตอร์ในห้องของ Proctor Quinlan

- Holotape ที่ชื่อว่า Maxson was right : วางอยู่บนโต๊ะในห้องพักของลูกเรือเช่นเดียวกัน

- Holotape ที่ชื่อว่า Your new assignment : วางอยู่บนถังเหล็ก ตรงโซนห้องพักที่อยู่เหนือโซน the main deck

- น้ำอัดลม Nuka-Cola Quantum : วางอยู่ในพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่อยู่ชั้นล่างสุด (ตรงที่ Scribe Haylen ชวนตัวเอกไปคุยเรื่องของแดนท์ในเควส Blind Betrayal)

- กุญแจ Lucia's personal key : อยู่ในกล่องส่วนตัวของ Clarke (Clarke's footlocker) ในระหว่างเควส Duty or Dishonor

- บันทึก From Lucia : อยู่ในกล่องส่วนตัวของ Clarke ในระหว่างเควส Duty or Dishonor เช่นเดียวกัน

- Holotape ที่ชื่อว่า Knight Lucia's log : อยู่ในกล่องส่วนตัวของ Lucia (Lucia's footlocker) ในระหว่างเควส Duty or Dishonor เช่นเดียวกัน

ของน่าสนใจที่เก็บได้จากการขโมย หรือเก็บได้จากการที่เจ้าของเสียชีวิตลง

- ชุดเกราะ T-60 Power Armor จำนวน 7 ชุด : ซึ่ง 5 ชุดจะสามารถขโมยได้จากหน่วยลาดตระเวนที่เดินไปมาในเรือเหาะ ด้วยการขโมย Fusion core ของผู้ที่ใส่ชุดอยู่มาก่อน ส่วนอีก 2 ชุดจะอยู่ที่ห้องซ่อมบำรุงชุดเกราะ Power Armor แต่การทำเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดอาการไม่ชอบในการกระทำของตัวผู้เล่นจาก Danse (แดนท์) ถ้าหากว่าเขายังสิงอยู่ที่ห้องกินข้าวบนเรือเหาะ และมันก็เป็นเรื่องยากที่ผู้เล่นจะขโมยชิ้นส่วนบางชิ้นของชุดมาได้โดยที่แดนท์ไม่เห็น แต่มันก็เป็นไปได้ที่บางครั้งเขาจะไม่เห็นว่าผู้เล่นขโมยของเลยก็มี

- หมวก Airship captain's hat และชุด Brotherhood fatigues แบบเข้าสีกัน : ขโมยได้จาก Knight-Captain Kells.

- ชุด Bomber jacket : จากลูกเรือทั่วไปที่เป็นนักบิน

- ชุด Engineer's armor : จากลูกเรือทั่วไปที่เป็นวิศวกรหรือช่างซ่อม

- ปืน Legendary Gatling laser ที่ชื่อว่า Final Judgment : ถือโดย Elder Maxson แต่เขาจะมีปืนนี้อยู่กับตัวก็ต่อเมื่อเขาต้องรบจริงๆจังๆเท่านั้น

- หมวก Medical goggles : จากลูกเรือทั่วไปที่เป็นนักวิจัย

- ชุด Quinlan's armor : ขโมยได้จาก Quinlan

- ชุด Science scribe's armor : จากลูกเรือทั่วไปที่เป็นนักวิจัย

- ชุด Teagan's armor : ขโมยได้จาก Teagan

- หมวก Welding helmet : จากลูกเรือทั่วไปที่เป็นวิศวกรหรือช่างซ่อม

ส่วนเกี่ยวข้องของเรือเหาะที่มีต่อเควสต่างๆ

- Shadow of Steel : ตัวเอกจะได้เดินทางกับ Paladin Danse ไปยังเรือเหาะเพื่อพบกับ Elder Maxson

- Airship Down : เรือเหาะถูกโจมตีจากฝ่าย The Institute จนต้องพบกับจุดจบของ Brotherhood of Steel

- Rockets' Red Glare : ตัวเอก , ตาแว่น Deacon และ Tinker Tom ปลอมตัวและลอบเข้าไปถล่มเรือเหาะด้วยระเบิด

- With Our Powers Combined : เมื่อฝ่าย Brotherhood of Steel ก่อปัญหาในเขต The Commonwealth มากเกินไป จนทำให้ฝ่าย The Minutemen ทนไม่ได้และต้องหาทางถล่มเรือเหาะด้วยปืนครก

หมายเหตุ

- เรือเหาะ The Prydwen จะปรากฏขึ้นเมื่อผู้เล่นทำเควสหลักที่มีชื่อว่า Reunions จบแล้ว โดยจะบินเข้ามายังเขต The Commonwealth ผ่านทางตะวันตกของแผนที่ และท้ายที่สุดเรือเหาะก็จะไปจอดพักอยู่ที่สนามบิน Boston Airport ซึ่งผู้เล่นจะสามารถเยี่ยมชมภายในของเรือเหาะได้ก็ต่อเมื่อทำเควสของฝ่าย Brotherhood of Steel ที่ชื่อว่า Shadow of Steel ตามคำชักชวนของ Paladin Danse ได้แล้วเท่านั้น

- ถ้าหากว่าผู้เล่นยังไม่ได้เข้าร่วมกับฝ่าย Brotherhood of Steel ทั้งที่เรือเหาะปรากฏตัวแล้ว (โดยที่ผู้เล่นยังไม่ได้ทำเควสช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ Cambridge Police Station) เควสตัวเลือกของฝ่าย BOS ที่มีชื่ว่า Reveille ก็จะเริ่มขึ้นหลังจากที่ The Prydwen ถูกทำลายแล้ว

- เมื่อไฟมอดดับไปผู้เล่นก็ยังคงที่จะไปเยี่ยมชมที่ซากที่ตกของมันได้ แต่ก็จะทำให้ผู้เล่นพบเจอศัตรูที่ชื่อว่า Brotherhood of Steel scribes , knights , และ paladins เข้าโจมตีใส่ผู้เล่นด้วย

- การพาคู่หูหรือ Companions บางคนไปที่เรือเหาะ the Prydwen พวกคู่หูบางคนจะเกิดปฏิกิริยาใหม่ๆดังนี้ด้วย

--- ถ้าหากว่าผู้เล่นพา Nick Valentine ขึ้นไปยังเรือเหาะ พวกการ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องสั่งการของแม็กซันบางทีเขาจะบ่นว่า "เครื่องจักรไม่ควรจะมีอิสระแบบนี้" จะทำให้นิคที่โดนด่านั้นบ่นรำพีงออกมาว่า เขาไม่สนคำพูดอะไรแบบนี้มานานแล้ว ส่วนอีกบทพูดหนึ่งจะเป็นดังนี้ พวกสมาชิกของ BOS คนทั่วไปจะบอกว่านิคนั้น "น่ารังเกียจ" แล้วนิคก็จะบ่นออกมาว่า เขาก็รู้สึกแบบนั้นต่อคนที่พูดเหมือนกัน และบางที แม็กซันที่ได้เห็นนิคก็จะบ่นใส่ตัวเอกด้วยว่า เขาคงต้องประเมินเรื่องหน้าที่การงานกับตัวเอกซะหน่อยแล้ว

--- ถ้าหากว่าผู้เล่นพา Hancock ขึ้นไปยังเรือเหาะ พวกสมาชิกของ BOS คนทั่วไปจะบอกว่า "เจ้าสิ่งนี้" นั้น "เชื่อง" จังนะ ซึ่งแฮนค๊อกก็จะตอบกลับไปว่า "ก็ไม่นะ"

--- ถ้าหากว่าผู้เล่นพา Strong ขึ้นไปยังเรือเหาะ พวกสมาชิกของ BOS จะตะโกนบอกว่า "พวกกลายพันธ์ขึ้นมาบนเรือเหาะ!" และสตรองจะบ่นออกมาว่า "มนุษย์พวกนี้เสียงดังกันจัง"

--- ถ้าหากว่าผู้เล่นพา X6-88 ขึ้นไปยังเรือเหาะ เขาจะบอกว่าเขานั้นสามารถฆ่าคนยกเรือเหาะนี่ได้อย่างง่ายดายเลย

--- ถ้าหากว่าผู้เล่นพา Dogmeat ขึ้นไปยังเรือเหาะ พวกสมาชิกของ BOS บางตนจะพูดชมเชยน้องหมา และบอกว่า Dogmeat เป็นสุนัขเชื่องและหาได้ยากมาก หรือสมาชิกบางคนก็อาจจะพูดดูถูกน้องหมาเลยก็มี

- ของส่วนตัวของบุคคลที่ผู้เล่นทำการล้วงกระเป๋าหรือ Pick pocket นั้น ส่วนมากเมื่อเวลาผ่านไปมันมักจะสปอนเกิดใหม่เสมอ รวมถึงหมวก Airship captain's hat ของกัปตันเคลด้วย

- สำเนียงการออกเสียงเรียกชื่อของเรือเหาะ The Prydwen นี่ไม่เหมือนกันสักตัวละคร โดยในคลื่นวิทยุ Military Frequency AF95 จะออกเสียงว่า 'preed-win' ส่วนแดนท์นั้นจะออกเสียงว่า 'prid-win' ส่วนสำเนียงจริงๆตามการออกเสียงแบบภาษาเวลส์ (Welsh) คือ 'PUHD-wehn'

- ส่วนชื่อ Prydwen นั้นมีที่มาจากชื่อของเรือที่เป็นของกษัตริย์อาเธอร์ กษัตริย์แห่งอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในตำนานเล่าขานในฐานะวีรบุรุษแห่งยุคกลางนั่นเอง (ซึ่งในตัวเกม ทีมงานเขาต้องการจะสื่อว่าแม็กซันนั้นเป็นกษัตริย์อาเธอร์อยู่แล้วค่ะ)