FAR CRY 4 : บทสรุปเควส Reach the Bell Tower

มื่ออาเจย์รู้สึกตัวอีกครั้ง เขาจะพบว่าคนขับรถที่นั่งหลบลูกปืนมาด้วยกันได้ถูกต้นไม้ล้มทับจนตายคาที่ ข้างๆศพของคนขับรถจะมีโทรศัพท์สื่อสารที่เสียหายหน้าจอแตกตกอยู่ พร้อมกับคำพูดกึ่งตะโกนของซาบาล “อาเจย์…ถ้าได้ยินเสียงชั้นก็ช่วยตอบหน่อย!! อาเจย์…ตอบด้วย ได้โปรด!!”

อาเจย์จะหยิบโทรศัพท์มาตอบรับด้วยเสียงเหนื่อยๆ เป็นเพราะสติของเขายังไม่กลับมาเต็มที่ ซาบาลจะคุยสอบถามว่าตอนนี้อาเจย์อยู่ที่ไหน อาเจย์ตอบกลับไปในทันทีว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน แถมคนขับรถก็ตายแล้วด้วย อาเจย์ตอบไป มือเขาก็พลางหยิบมีดออกมาจากศพของคนขับ อย่างน้อยๆก็ขอมีอาวุธป้องกันตัวสักหน่อยเถอะน่า

เมื่อซาบาลได้ฟังคำตอบของอาเจย์ว่าไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เขาจึงบอกให้ชายหนุ่มมองไปรอบๆ ซึ่งน่าจะเจอหอคอยสูงอยู่ใกล้ๆ ซาบาลบอกว่าให้อาเจย์มุ่งหน้าไปที่หอคอยนั้น เราจะใช้เป็นจุดนัดพบกันนะ ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้ายกับอาเจย์ไว้อีกว่า นายทำได้แน่นอน ก่อนที่จะวางสายไป

บริเวณที่หอคอยอยู่จะแสดงเป็นจุดสีเหลือง ซึ่งนั่นคือจุดที่เราต้องไป เมื่อเราเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็จะพบตัวทหารแดงกลุ่มแรกที่เข้ามาตรวจพื้นที่เพื่อหาตัวเรา (บริเวณที่มีไฟไหม้จะมีกล่องยากับเงินให้เก็บ) พวกทหารจะส่งเสียงเรียกอาเจย์ว่าไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ทำอะไรนายหรอก ก็อย่าไปเชื่อมัน ให้กดก้มหลบบริเวณหลังก้อนหินหรือหยิบกล้องขึ้นมาแท๊กพวกมันก่อนก็ได้จะได้เดินได้สะดวก

เกมจะสอนให้เรารู้จักระบบการลอบฆ่า Stealth Fundamental โดยการกดปาก้อนหินเพื่อเบี้ยงเบนความสนใจของศัตรู และเปิดโอกาสให้ย่องเงียบไปด้านหลังเพื่อปาดคอ หรือถ้าผู้เล่นไม่ถนัดย่องเงียบตีนเบาก็ให้เชือดศัตรูสักคนแล้วเก็บปืนมันขึ้นมายิงบวกเลยก็ได้ แต่ช่วงนี้ศัตรูยังน้อย และกระสุนเราก็มีน้อยมากๆ เราแนะนำให้ย่องเงียบจะดีกว่า

เมื่อหลบหนีทหารมาตามทางได้แล้ว จะเจอซากกวางนอนตายอยู่ ตรงนี้เกมจะสอนให้เราเก็บเนื้อสัตว์กับหนังเพื่อไว้ใช้ประโยชน์ โดยในทีนี้เกมจะสอนการใช้ประโยชน์จากเนื้อสัตว์ ด้วยการถล่มศัตรูให้ราบด้วยเหยื่อล่อนั่นเอง ให้กดเลือกเนื้อสัตว์ แล้วโยนเข้าไปในสถานที่ๆมีศัตรูเป็นกลุ่มๆ ถ้าบริเวนนั้นมีสัตว์กินเนื้อมันจะเข้าจู่โจมศัตรูทันที แต่ให้ระวังด้วย ถ้าเราโยนใกล้ตัวมากเกินไป คนที่จะโดนกัดจะเป็นเราเสียเอง

เมื่อเดินเข้ามาใกล้ค่ายศัตรู เกมจะสอนการใช้กล้องถ่ายรูปเพื่อแท๊กศัตรู ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการดูพฤติกรรมของศัตรูเพื่อหลบหลีก เมื่ออาเจย์เดินผ่านค่ายของศัตรูมายังช่องเขาทางด้านบน เพแกนจะโทรมาขัดจังหวะการเดินของอาเจย์ทันที (พี่รู้เบอร์โทรศัพท์น้องเจย์ได้ไง) เขาจะเริ่มบทสนทนาว่า “อาเจย์เด็กน้อยของชั้น… เธอยุ่งอยู่รึเปล่าเนี่ย? ที่ชั้นโทรมานี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหม? ดีมาก…ช่างเป็นผู้ฟังที่ดีเหลือเกิน”

แต่ก็ยังไม่วายตำหนิติเตียนอาเจย์อีกว่า “เธอจะอยู่กินปูรอชั้นหน่อยไม่ได้หรือไงเนี่ย? อ้อ…ปูมันคงไม่อร่อยสิท่า ที่ชั้นโทรมาเนี่ย…ชั้นอยากจะให้เธอได้รู้ว่าชั้นจะฆ่าไอ้พ่อครัวที่ไร้ความสามารถนี่ให้ละกัน หรือจะฆ่าครอบครัวเขาดีล่ะ? อ้อ…ช่างมันเถอะ คราวหน้าชั้นสัญญาว่ามันจะดีกว่านี้แน่ ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ลักพาตัวพ่อครัวชื่อดังมาอีกแล้วล่ะ…”

เมื่อฟังเพแกนพล่ามคนเดียวจบแล้วให้เดินไปจนสุดทาง อาเจย์จะได้ยินเสียงอีป้าตะโกนโหวเหวกโวยวายเรียกอยู่บนเขาด้านบน ป้าจะส่งเชือกมาให้อาเจย์ได้ปืนขึ้นไป เมื่ออาเจย์ปีนขึ้นไปถึงแล้ว ป้าแกจะบอกว่าเป็นเกียรติที่ได้พบกับอาเจย์ และยังบอกอีกว่าซาบาลรอเขาอยู่ในหอคอยข้างหน้า

เมื่ออาเจย์เดินเข้าไปในหอคอย เขาจะพบกับซาบาลเตรียมอาวุธปืนอยู่ พี่บ่าวจะดีใจมากที่อาเจย์รอดชีวิตมาพบเขาได้ อาเจย์จะถามซาบาลว่าเหตุอันใดซาบาลถึงช่วยชีวิตเขาไว้ พี่บ่าวจะสาธยายว่า อาเจย์นายเป็นลูกของโมฮาน กาเลย์ นายอาจจะไม่รู้นะ แต่นายมีชื่อเสียงในคีราทมาก โดยเฉพาะในกลุ่มโกลเด้นท์พาทนี่ดังระเบิด

อาเจย์ผู้อยากรู้จะถามอีกว่า ไอ้พวกทหารนั่นมันตามล่าชั้นเรอะ? ซาบาลจะตอบไปทันทีว่า เพแกนจะไม่หยุดไล่ล่าจนกว่าจะได้ตัวนายกลับไปแน่นอน… (ในนี้มีกระสุนให้เก็บเป็นลัง แนะนำว่าฟังพี่บ่าวพูดไปด้วยเก็บของไปด้วยจะดีกว่า)

ยังไม่ทันที่อาเจย์จะพักให้หายเหนื่อย คนของโกลเด้นท์พาทจะแหกปากมาแต่ไกลว่าเจอศัตรูอีกระลอก ซาบาลจะออกหน้าปกป้องอาเจย์โดยการวิ่งไปสู้กับศัตรูด้านหน้า ให้เราวิ่งขึ้นไปชั้นสองแล้วคอยยิงเก็บพวกทหารจะเป็นต่อมากกว่า ให้ยิงพวกศัตรูให้หมด ยิงไปได้สักพัก ซาบาลจะตะโกนมาว่ามีหิมะถล่มให้หาที่หลบเร็วๆ แต่ไม่ว่าอาเจย์จะหลบยังไงก็ไม่พ้น หิมะจะถล่มลงมาพัดสติของอาเจย์ให้ขาวโพลนไปอีกครั้งหนึ่ง…

อาเจย์จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับดันก้อนน้ำแข็งให้พ้นตัวไปด้วย ไม่นานนักซาบาลจะวิ่งเข้ามาช่วยยกก้อนน้ำแข็งออกจากร่างของเขาอีกแรง พร้อมกับชมอาเจย์ไปด้วยว่านายนี่ตายยากจริงๆ อาเจย์จะถามเขาด้วยเสียงเพลียๆว่าที่พูดนี่ชมใช่มั้ย? ซาบาลไม่ตอบ แต่กลับช่วยดึงร่างของอาเจย์ให้ออกมาจากซากหิมะแทน…

บทความเก่าของปี 2015 พอร์ตมาจากเว็บ Dek - D และปรับปรุงใหม่เมื่อปี 2018