FAR CRY 4 : ระบบการเล่นพื้นฐาน - ของสะสม

ในเกม Far Cry 4 นั้นจะมีของสะสมที่ซ่อนอยู่ให้ผู้เล่นได้ทำการค้นหาและเก็บสะสมมันมากกว่าร้อยชิ้น และของพวกนั้นก็จะกระจัดกระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศของ Kyrat และบทความในตอนนี้ เราก็จะมาอธิบายถึงข้อมูลของๆสะสมชิ้นนั้นๆให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ความเป็นมาของมันกันค่ะ

Masks of Yalung

หน้ากากของ Yalung ถือเป็นของสะสมชนิดหนึ่งในเกมภาคนี้ มันเป็นหน้ากากแห่งความตายที่ถูกทิ้งไว้โดยฆาตกรต่อเนื่องที่เรียกตัวเองว่า "The Goat" ซึ่งเจ้าฆาตรกรคนนี้ก็ได้เดินทางไปทั้งทั่วประเทศ Kyrat และฆ่าคนหรือสัตว์อื่นๆที่เขารู้สึกว่าพวกนั้นจะต้องทำการเสียสละเพื่อ Yalung ทิ้ง

หน้ากากจะมีให้เก็บทั้งหมด 55 อัน และมันจะวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ทางตอนใต้และพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ Kyrat ซึ่งสถานที่ๆหน้ากากนั้นได้วางอยู่ จะปรากฎเป็นรูปหน้ากากเล็กๆสีฟ้าบนแผนที่ของผู้เล่น และในขณะที่ผู้เล่นได้เข้าสู่พื้นที่ๆมีหน้ากากวางไว้ ก็จะปรากฎเป็นพื้นที่วงกลมสีฟ้าเล็กๆขึ้นโดยรอบ และจะปรากฏบนแผนที่ Mini Map ด้วย อีกทั้งผู้เล่นก็จะได้ยินเสียงสวดมนต์ที่ดังมากขึ้นถ้าหากว่ายิ่งเข้าใกล้ในตรงพื้นที่ๆมีหน้ากากวางอยู่

และเมื่อผู้เล่นได้เจอเข้ากับจุดที่มีหน้ากากวางอยู่ ก็ให้กดสำรวจเพื่อเก็บ หรือจะทำลายหน้ากากทิ้งก็ได้เช่นกัน ซึ่งในจุดที่มีหน้ากากของ Yalung นี้ ใกล้ๆกันก็มันจะมีศพหรือซากกระดูกวางอยู่ด้วย อีกทั้งในพื้นที่ยังมีบันทึกสั้นๆจากบุคคลปริศนาที่เรียกตัวเองว่า "The Goat" ด้วย

ในข้อความที่ The Goat ได้เขียนทิ้งไว้นั้น เขามักจะบอกว่าคนบางคนที่เขาฆ่าไปนั้นจำเป็นต้องเสียสละเพื่อ Yalung และในขณะที่ผู้เล่นได้เก็บหรือทำลายหน้ากากไปมากๆแล้ว ถ้าผู้เล่นได้เข้าไปในพื้นที่ทางตอนเหนือ และได้อ่านบันทึกของ The Goat เขาก็จะเขียนบันทึกระบุไว้ว่า เขารู้ดีอยู่แล้วว่า Ajay (อาเจย์) นั้นกำลังตามเก็บและทำลายหน้ากากที่เขาได้ทิ้งไว้ตามจุดต่างๆมากไปพอสมควร แต่ The Goat ก็ไม่ได้ลงมือออกล่าหรือตามสังหารอาเจย์ และได้ทิ้งเหตุผลเอาไว้ว่า "เทพเจ้า Yalung ยังไม่ได้ทำการเรียกชื่อของอาเจย์" นั่นเอง

ในบันทึกฉบับล่าสุดที่ The Goat ได้เขียนเอาไว้ เขารู้สึกโกรธแค้นในการกระทำของอาเจย์ที่ได้ทำการทำลายหน้ากากทิ้งไปซะหมด และ The Goat เองก็ได้เขียนต่อว่าถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่อาเจย์ที่ทำลายหน้ากากของ Yalung ด้วยเช่นกัน

ในส่วนที่ The Goat ได้ต่อว่าบุคคลที่สามที่เข้ามาทำลายหน้ากากนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่าเขาเป็นใคร เพราะ The Goat ไม่ได้เขียนระบุชื่อมาโดยตรง แต่ทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ บุคคลที่สามนั้นอาจจะเป็น Hurk (เฮิร์ก) ที่เข้ามาถล่ม Kyrat แบบอาเจย์ก็ได้

และหลังจากที่ผู้เล่นได้ทำการทำลายหน้าครบทั้ง 55 ชิ้น ทางฝ่าย The Golden Path ก็จะให้รางวัลแก่ผู้เล่นด้วยความสามารถที่ผู้เล่นสามารถเรียกกองหนุน หรือ Guns for Hire tokens ได้แบบไม่จำกัด

ส่วนตัวตนที่แท้จริงของ The Goat นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ว่าเขาเป็นใคร แต่มีข้อสันนิฐานกันว่า เขาอาจจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของกองทัพ Royal Army หรือไม่ก็ Royal Guard ก็ได้ เพราะการที่เขาได้เป็นคนของฝ่ายนี้มันจะช่วยให้เขาเดินทางไปตามที่ต่างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะยังไงในเนื้อเรื่องช่วงแรก กองทัพของเพแกนก็แทบจะคุมได้ทั้งประเทศอยู่แล้ว อีกทั้งการที่ฆาตกรเป็นสมาชิกของกองทัพเพแกน ก็ทำให้เขามีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือผ่านสะพาน The kings bridge เพื่อเข้าไปทำการฆาตรกรรมได้อย่างง่ายดายก่อนที่จะถึงเนื้อเรื่องในภารกิจ 'Key to the North' ที่สะพานถูกยึดครองโดยฝั่ง The golden path ไปแล้วด้วย

หมายเหตุ

- การทำลายหน้ากากจะให้ค่าประสบการณ์จำนวน 250 XP ต่อหนึ่งชิ้น การทำลายหน้ากากให้ครบทั้ง 20 อันก็จะปลดล็อกอาวุธปืนที่ชื่อว่า "Trooper" มาวางขายหน้าร้านค้าด้วย

Propaganda Posters

โปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อของเพแกนอันนี้ก็เป็นหนึ่งในของสะสมที่พบได้ในเกม Far Cry 4 ซึ่งทั่วทั้งเกมจะมีโปสเตอร์อยู่จำนวน 150 แผ่นแปะกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ Kyrat ทั้งทางตอนเหนือและทางตอนใต้ พวกโปสเตอร์เหล่านี้สามารถถูกทำลายได้ด้วยการที่ผู้เล่นเข้าไปใกล้ๆกับมันและกดสำรวจเพื่อฉีกทำลาย หรือการใช้อาวุธประเภทไฟโจมตีใส่ ก็จะเป็นการเผาทำลายโปสเตอร์ทิ้งด้วยเช่นกัน

การทำลายโปสเตอร์หาเสียงนี้ทิ้ง จะช่วยให้ผู้เล่นได้รับค่าประสบการณ์จำนวน 250 XP ต่อการทำลายหนึ่งแผ่นด้วย

Lost Letters

จดหมายที่หายไป คือจดหมายที่ถูกทิ้งไว้โดยบุคคลที่เป็นทหาร (ส่วนใหญ่จะเป็นทหารผู้ส่งสารด้วย) จากกองทัพอังกฤษซึ่งประจำการอยู่ในประเทศ Kyrat ในปี ค.ศ. 1819 ถึงปี ค.ศ. 1820

จดหมายแต่ละฉบับ ผู้เล่นจะสามารถพบมันได้ใกล้ๆกับโครงกระดูกที่ดูเหมือนจะเป็นศพที่สวมใส่เครื่องแบบของทหารอังกฤษอยู่ เนื้อหาในจดหมายส่วนมากมักจะเป็นข้อความส่วนตัวที่ส่งมาระหว่างทหารชื่อโรเบิร์ต กับภรรยาของเขาที่ชื่อว่าชาร์ลอตต์

เนื้อหาในจดหมายแต่ละฉบับ ดูเหมือนว่าโรเบิร์ตจะเริ่มถล้ำลึกลงไปในความพิศวงของตำนานของ Shangri - la ผ่านภาพวาด Thangkas ทั้ง 5 ผืนที่วาดโดยนักบวชหลังจากที่พวกเขาได้ยินเรื่องราวใน Shangri-la มาจาก Kalinag

และเนื้อหาในจดหมายฉบับสุดท้ายที่มาจากชาร์ล็อตต์ เธอได้ทำการเขียนบอกกับโรเบิร์ตไปว่า เธอจะทำการขหย่ากับโรเบิร์ตและจะไปแต่งงานใหม่กับคนอื่น เพราะเธอได้เห็นว่าโรเบิร์ตนั้นเพี้ยนไปแล้ว

ส่วนจดหมายฉบับสุดท้ายที่มาจากโรเบิร์ตก็แสดงให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าเขานั้นได้หลงเข้าไปในความลึกลับของ Shangri-la เรียบร้อยแล้ว และมันก็ทำให้เขาเสียสติไปอย่างสมบูรณ์ แถมเขายังใช้สำนวนแปลกๆเขียนลงในจดหมาย และบอกว่าเขาต้องการให้ชาร์ลอตต์และโธมัสลูกของพวกเขา เดินทางมาหาโรเบิร์ตยังที่ประเทศ Kyrat แห่งนี้ด้วย

หมายเหตุ

- จดหมาย Lost Letters ที่ผู้เล่นนั้นทำการเก็บสะสม ทั่วทั้งเกมจะมีอยู่ 20 ฉบับ และการเก็บแต่ละครั้งก็จะให้ค่าประสบการณ์จำนวน 500 XP ต่อหนึ่งเล่มด้วย

Mani Wheels

หรือเรียกแบบไทยๆว่า "กงล้ออธิษฐาน" หรือ "กงล้อมนตรา" เป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ของประเทศ Kyrat ซึ่งหน้าที่ของกงล้ออธิษฐานก็จะเอาไว้สำหรับประกอบศาสนกิจของพุทธศาสนาในนิกายมหายาน มีลักษณะเป็นล้อหมุนทรงกระบอก อาจทำด้วย โลหะ , ไม้ หรือหิน ตามแต่ลักษณะการใช้งาน ผื้นผิวรอบทรงกระบอกจะจารึกคพสวดมนต์แห่งกรุณาเอาไว้ว่า "โอม มณี เปเม ฮุง" (ซึ่งบางครั้งผู้เล่นก็จะได้ยินชาว Kyrat พูดสวดคำนี้อยู่ในเกมด้วยเหมือนกัน) ซึ่งตามประเพณีของชาวพุทธทิเบตแล้ว การหมุนกงล้อดังกล่าวมีผลเท่ากับการสวดมนต์ด้วยปากเปล่า

ชาวทิเบตเชื่อว่าทุกครั้งที่กงล้อนี้หมุนหนึ่งรอบ เท่ากับเป็นการสวดมนต์ได้หนึ่งจบ ดังนั้นผู้ที่ทำการสวดมนต์และหมุนกงล้ออธิษฐานไปพร้อมๆกัน จะเป็นตัวช่วยเพิ่มพูนบุญกุศล ชำระบาปกรรม ด้วยกรรมดี กงล้ออธิษฐานนี้มีอยู่ด้วยกันหลายขนาด ทั้งขนาดใหญ่ที่ต้องออกแรงหมุน หรือกงล้อเล็กๆที่สามารถถือไว้ในมือได้ และใช้เชือกช่วยผ่อนแรงในการหมุน กงล้อบางอันจะถูกแขวนอยู่กลางอากาศหรือลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งทำให้สามารถหมุนได้ แต่วัดบางแห่งก็จะเป็นกงล้อหินตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือวัดบางแห่งจะมีกงล้ออธิษฐานแบบที่เรียงเป็นแนวยาวไปบนราวไม้ตลอดแนวทางเดิน (ขอขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี เรื่อง กงล้ออธิษฐาน)

ซึ่งในเกมนี้ Mani Wheels จะเป็นของสะสมชนิดหนึ่งที่อาเจย์สามารถเข้าไปทำการหมุนได้ การปั่นให้กงล้อหมุนจะยังให้คะแนน Karma Points (KP) ด้วยเช่นกัน ซึ่งในเกมจะมีกงล้อมนตาอยู่ทั้งหมด 40 ที่ให้ผู้เล่นได้ตามไปหมุนกัน

หมายเหตุ

- การหมุนกงล้อมนตราจะให้คะแนนค่า Karma ถึง 250 KP ต่อหนึ่งกงล้อ ซึ่งการที่ผู้เล่นหมุนได้ครบทั้ง 40 กงล้อก็จะให้ค่า Karma เป็นจำนวนโดยรวมสูงถึง 10,000 แต้ม

Mohan Ghale's Journal

บันทึกของโมฮาน กาเลย์ หรือผู้ที่เป็นพ่อของอาเจย์ บันทึกที่ดูเผินๆเหมือนจะไม่มีความสำคัญอะไรต่อเนื้อเรื่อง แต่จริงๆแล้วมันคือกุญแจที่จะช่วยไขความลับที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดของเรื่องราวใน Far Cry 4 นี้ได้เลยทีเดียว

เนื้อหาในบันทึกก็จะเป็นเรื่องราวของโมฮานตั้งแต่แรกในตอนที่เขาได้แต่งงานกับอิชวารี ไปจนถึงในตอนที่เขาได้รู้จักเพแกน ไล่ยาวมาจนถึงในตอนท้ายที่โมฮานได้ตัดสินใจทำอะไรบางสิ่งบางอย่างที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด

หมายเหตุ

- บันทึกของโมฮานที่ผู้เล่นนั้นทำการเก็บสะสม ทั่วทั้งเกมจะมีอยู่ 20 ฉบับ และการเก็บแต่ละครั้งก็จะให้ค่าประสบการณ์จำนวน 500 XP ต่อหนึ่งเล่มด้วย

King Min's Kyrat

นี่คืออีกหนึ่งของสะสมที่คนเขียนชอบมากๆ ของสะสมในส่วนนี้ก็คือข้อมูลต่างๆที่ผู้เล่นได้ทำการค้นพบและเจอเข้าในระหว่างการเล่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของบุคคลต่างๆในเกมภาคนี้ , ข้อมูลของสัตว์และสิ่งมีชีวิตต่างๆในประเทศ Kyrat รวมไปถึงข้อมูลของสถานที่สำคัญๆต่างๆในประเทศด้วย

ข้อมูลพวกนี้ผู้เล่นจะไม่สามารถได้ล่วงหน้ามาก่อน จนกว่าผู้เล่นจะทำการไปสำรวจและพบเจอด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งรายชื่อของข้อมูลจะมีทั้งหมด 82 ข้อ ผู้เล่นจะได้ข้อมูลของแต่ละอย่างมาโดยอัตโนมัติเมื่อได้ทำการค้นพบเข้ากับเหล่าผู้คนใหม่ๆ , สัตว์ หรือสถานที่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ข้อมูลแต่ละรายการจะเขียนขึ้นโดยหนึ่งในนักเขียนโฆษณาชวนเชื่อที่จงรักภักดีของฝ่ายเพแกน ดังนั้นก็อย่าแปลกใจที่ข้อมูลในหัวข้อนี้มันจะอวยฝ่ายเพแกนกันซะเหลือเกิน (ฮา)

Thangka

ทังกะเป็นภาพวาดชนิดหนึ่งที่อาจจะวาดบนผืนผ้า และอาจจะวาดบนผิวหนังของสัตว์ก็ได้เช่นกัน ส่วนมากภาพวาดบนทังกะจะเป็นเทพหรือสิ่งที่ชาว Kyrati ยกย่องสรรเสริญกัน

ในช่วยแรก อาเจย์ได้ทำคสวามรู้จักกับภาพวาดแบบทังกะโดยการแนะนำผ่าน Amita (อมิตา) ในช่วงหลังที่จบจากภารกิจ The Wolves Den เพราะป้า Kanan (คานัน) หญิงชราที่อาเจย์ได้ทำหารช่วยเหลือในเรื่องของสัตว์ป่าให้ เธอเป็นนักวาดทังกะมือฉมังนั่นเอง ในเนื้อเรื่องช่วงนั้นผู้เล่นก็จะได้เห็นภาพวาดทังกะที่คานันได้วาดเอาไว้หลายภาพ ซึ่งส่วนมากก็เป็นภาพวาดทางศาสนาซะส่วนใหญ่ รวมถึงมีภาพวาดของ Bhadra (บรันด้า) เด็กสาวที่จะต้องเป็น Tarun Matara เทพที่ยังมีชีวิตอยู่คนต่อไปนั่นเอง

ต่อมา ในระหว่างที่ผู้เล่นกำลังทำเควสของ Yogi (โยกิ) และ Reggie (เร็คจี้) อยู่นั้น อาเจย์ก็ได้พบว่าที่บ้านของเขาที่ Ghale Homestead นั้นเคยมีภาพวาดทังกะขนาดใหญ่ที่เป็นมรดกตกทอดประจำตระกูลติดประดับไว้อยู่ที่ห้องโถงหลักของตัวบ้านพักเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันภาพวาดทังกะนั้นได้หายไป และถูกแยกส่วนออกเป็นหลายส่วนกระจัดกระจายไปไว้อยู่ตามวัดต่างๆทั่วประเทศ Kyrat โดยฝีมือของ "บุคคลที่ไม่รู้จัก" (แต่มีการสันนิษฐานในภายหลังว่า คนที่เอาภาพวาดทังกะไปไว้ตามที่ต่างๆก็คือ Darpan (ดาร์แพน) ไกด์ในตำนานตอนต้นเกมนั่นเอง) แต่อย่างไรก็ตาม โยกิและเร็คจี้ก็จะช่วยบอกตำแหน่งของภาพวาดที่ถูกกระจายไปยังที่ต่างๆให้ ซึ่งถ้าผู้เล่นได้ไปตามสถานที่ๆมีภาพวาดทังกะวางอยู่ ก็จะเป็นการเข้าทำภารกิจ Shangri-La และจะสามารถเล่นเป็น Kalinag ได้ด้วย